ไม่ค่อยมีใครเขียนถึงโจแบรธเท่าไหร่ ทั้งที่เป็นผู้บุกเบิกแกล็มร็อกในอเมริกา แต่น่าเสียดายชื่อเสียงของเขาสั้นเหลือเกิน
โจแบรธเป็นคนที่มีอนาคต เพราะในขณะที่เขายังไร้ชื่อเสียง เดวิด เกฟเฟน ประธานบริหารอีเล็กตราเร็คคอร์ดสในขณะนั้นยังกล้าเสนอสัญญามูลค่า 500,000 เหรียญสหรัฐฯ แลกกับผลงานสองอัลบั้ม ซึ่งในสมัยนั้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อยเลย ถ้าเดวิดกล้าเสนอเงินก้อนโตแสดงว่าเขาต้องเห็นศักยภาพอะไรบางอย่างจากโจแบรธแน่
โจแบรธมีชื่อจริงว่า บรูซ เวนย์ แคมป์เบลล์ เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1964 ในเมืองเล็ก ๆ ชื่อ คิงออฟปรัสเซีย ในเพนซิลเวเนีย เคยมีประสบการณ์กับวงโฟล์คร็อกชื่อพิดเจียนมาบ้างก่อนจะออกงานเดี่ยว
ไม่มีเหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมเดวิดกล้าเสนอสัญญามูลค่ามหาศาลให้โจแบรธ เพราะก่อนหน้าที่โจแบรธจะเซ็นสัญญากับอีเล็กตราเร็คคอร์ดส เขาเคยเสนอเดโมให้กับโคลัมเบียเร็คคอร์ดส แต่โดนปฏิเสธเพราะดนตรีหลุดกรอบป็อป
บางทีอาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเขายังไม่ได้รู้จักกับเจอรี แบรนดท์ผู้จัดการเขี้ยวลากดิน และเจอรีนี่เองที่นำเขาไปเซ็นสัญญากับอิเล็กตราแถมยังกล่อมให้บริษัทยอมจ่ายเงินประชาสัมพันธ์อัลบั้มล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก ทำป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในไทม์สแควร์ ทำโปสเตอร์ปิดทั่วเมือง โฆษณาในนิตยสารชั้นนำอย่างโว้กและในตอนแรกวางแผนจะแสดงสดเปิดตัวที่โรงละครปารีสโอเปราเฮาส์แบบเลิศหรูอลังการ แต่ค่าใช้จ่ายมันสูงเกิดจึงยกเลิกไป
หลายคนคิดถูกในแง่ที่ว่าโจแบรธกำลังทำสิ่งที่ล้ำหน้า ทั้งในเรื่องดนตรี สไตล์การแสดงบนเวที และการเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ (น่าจะเป็นรายแรกสำหรับศิลปินในสังกัดใหญ่ทีเปิดเผยตัวเองเช่นนี้) แต่บางทีสิ่งที่เขาเป็นยังไม่พร้อมสำหรับอเมริกาในช่วงนั้น ทั้งอัลบั้มแรกและงานชุดที่สองครีเชอรส์ออฟเดอะสตรีตล้มเหลวทางยอดจำหน่าย บริษัทอิเล็กตราหยุดสนับสนุนเขา จากนั้นเขาก็ไม่เคยสัมผัสชื่อเสียงอีกเลย
โจแบร็ธทำงานเป็นนักร้องประจำอยู่ที่โรงแรมเชลซี และเสียชีวิตในปีค.ศ. 1983 จากภาวะแทรกซ้อนการติดเชื้อเอชไอวี