ในภัยพิบัติ…
บางทีก็สงสัยว่าเมทัลคอร์อยู่ได้อีกนานแค่ไหน?
ช่วงหลังรู้สึกเหมือนว่าเมทัลคอร์เริ่มจะหมดมุข เหมือนอย่างที่เฮฟวีเมทัลหรือแธรชเมทัลเคยหมดมุข คือกลายเป็นสำเนียงซ้ำซากไปเสียแล้ว
แต่ก็ยังมีวงดนตรีที่ทำให้รู้สึกทึ่งออกมาได้เรื่อย ๆ อย่างเช่นวงอะเลิฟเอนด์สซุไซด์
ไม่ได้หมายความว่าวงนี้จะทำดนตรีได้ดีเลิศฉีกแนวไปจากเมทัลคอร์อื่น เพียงแต่ในสไตล์แบบนี้พวกเขาได้นำเสนอความสดและพลังของเมทัลคอร์ออกมาได้มันส์สะใจคนฟัง
ต้องขอบใจ ทิม แลมเบซิส จากวงแอสไอเลย์ดายอิงที่ไปพบเพชรเม็ดงามวงนี้และช่วยทำให้บริษัทเมทัลเบลดเซ็นสัญญากับวงนี้แทนที่จะปล่อยให้จมอยู่ใต้โคลนตมของแวดวงใต้ดิน ไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากในวงกว้าง
จุดเด่นของอะเลิฟเอนด์สซุไซด์อยู่ที่คู่หูมือกีตาร์ ออสกา แคโรลี และ แม็ท การ์เซีย ซึ่งประสานพลังกีตาร์ได้เด็ดขาดไม่แพ้กับวงเอเวนจ์ดเซเวนโฟลด์ ใจจริงก็ไม่อยากเอามาเปรียบเทียบกันแต่ว่าในสไตล์การเล่นริฟฟ์และโซโล่แบบแธรชเมทัลโบราณเฉียบคมแบบนี้ มันทำให้นึกถึงเอเวนจ์ดเซเวนโฟลด์ขึ้นมาดื้อ ๆ และอาจจะเพราะความสำเร็จของเอเวนจ์ดเซเวนโฟลด์ทำให้มีวงดนตรีแบบนี้เกิดขึ้นมานับไม่ถ้วน
บางทีก็นึกเสียดายที่เสียงร้องและโครงสร้างเพลงไปแอบอิงกับดนตรีฮาร์ดคอร์ดิบหยาบ ยิ่งเสียงร้องของ จอห์น แคโรลี โหดห้าวตะเบ็งสะใจคนชอบฮาร์ดคอร์ บางช่วงจะกลับมาร้องแบบเสียงร้องมีท่วงทำนองทำให้อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกิดวงนี้หันไปเล่นแธรชเมทัลคงสมใจคนวัยชรามากกว่านี้!
แต่ฟังไปฟังมา รู้สึกว่าเสียงร้องมันกลับไม่ค่อยสะใจเท่ากับสมัยที่พวกเขาทำอัลบั้มอะเซอเคิลออฟโฮป ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ใต้ดิน ตรงนี้น่าเสียดายที่บอกว่าการขัดเกลาที่ทำให้ดู “ป็อป” ขึ้นนี้มันทำลายความเฉียบคมแบบในอัลบั้มก่อนเล็กน้อย
อาจจะเป็นเพราะว่าถ้าจะให้ได้อารมณ์ของฮาร์ดคอร์มันต้องทำให้ออกมาดิบสดไม่ปรุงแต่งมากนัก แต่ในอัลบั้มนี้ดูมีการปรับแต่งให้มันออกมาแรงขึ้น อย่างเช่นเสียงร้องในเพลง “โคลด์ ซัมเมอร์” ดูจะจงใจให้มันออกอ้วนหนาสั้นกระชั้นไปกันได้ดีกับการสลับมาร้องเสียงใสใน “ฮีโรส์ ออฟ เฟธ” ที่ให้เสียงประสานกันลงตัวเสนาะโสตเป็นที่ยิ่ง แต่สดใสเกินไปและดูตลาดเกินไป ยิ่งฟังซ้ำไปซ้ำมารู้สึกเหมือนว่ามีกลิ่นอายโบราณกลบบรรยากาศใหม่ของดนตรีเมทัลคอร์มากเอาการอยู่ คล้ายกับว่าได้กลับไปสู่ช่วงปลายทศวรรษ 80 หรือช่วงต้นทศวรรษ 90 ที่ดนตรีเมทัลกำลังกลายพันธุ์ไปสู่ดนตรีลูกผสม คือยังมีส่วนผสมของเมทัล โดยเฉพาะริฟฟ์แบบแธรชเมทัลและท่อนโซโล่มีท่วงทำนองงดงาม ไม่ได้กะให้เอามันส์แบบโหดห้าวสะใจอย่างเดียว
อินเดอะดิสแซสเทอร์เป็นงานที่ดีตามมาตรฐานทั่วไปของเมทัลคอร์ซึ่งมันทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยที่พวกเขายังฉีกตัวเองให้โดดเด่นและแตกต่างจากเมทัลคอร์ทั่วไปไม่สำเร็จ ทั้งที่จะว่าไปแล้ว ความสดมันส์และทักษะการเล่นที่โดดเด่นในอัลบั้มที่แล้วดูจะมีแววว่าน่าจะเป็นเลือดใหม่ของวงการเมทัลคอร์ที่น่าจับตามอง
ถ้าอัลบั้มอะเซอเคิลออฟโฮปเป็นงานที่ทำให้พวกเขาเปรียบเหมือนเพชรที่มีรัศมีเจิดจ้า อินเดอะดิสแซสเทอร์ทำให้พวกเขากลายเป็นแค่ลูกแก้วสวยงาม หยิบมาดูเล่นพอเห็นความใส ๆ งาม ๆ แล้วก็โยนทิ้งไปได้โดยไม่ต้องเสียดาย
ในภัยพิบัติ…
บางทีก็สงสัยว่าเมทัลคอร์อยู่ได้อีกนานแค่ไหน?
ช่วงหลังรู้สึกเหมือนว่าเมทัลคอร์เริ่มจะหมดมุข เหมือนอย่างที่เฮฟวีเมทัลหรือแธรชเมทัลเคยหมดมุข คือกลายเป็นสำเนียงซ้ำซากไปเสียแล้ว
แต่ก็ยังมีวงดนตรีที่ทำให้รู้สึกทึ่งออกมาได้เรื่อย ๆ อย่างเช่นวงอะเลิฟเอนด์สซุไซด์
ไม่ได้หมายความว่าวงนี้จะทำดนตรีได้ดีเลิศฉีกแนวไปจากเมทัลคอร์อื่น เพียงแต่ในสไตล์แบบนี้พวกเขาได้นำเสนอความสดและพลังของเมทัลคอร์ออกมาได้มันส์สะใจคนฟัง
ต้องขอบใจ ทิม แลมเบซิส จากวงแอสไอเลย์ดายอิงที่ไปพบเพชรเม็ดงามวงนี้และช่วยทำให้บริษัทเมทัลเบลดเซ็นสัญญากับวงนี้แทนที่จะปล่อยให้จมอยู่ใต้โคลนตมของแวดวงใต้ดิน ไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากในวงกว้าง
จุดเด่นของอะเลิฟเอนด์สซุไซด์อยู่ที่คู่หูมือกีตาร์ ออสกา แคโรลี และ แม็ท การ์เซีย ซึ่งประสานพลังกีตาร์ได้เด็ดขาดไม่แพ้กับวงเอเวนจ์ดเซเวนโฟลด์ ใจจริงก็ไม่อยากเอามาเปรียบเทียบกันแต่ว่าในสไตล์การเล่นริฟฟ์และโซโล่แบบแธรชเมทัลโบราณเฉียบคมแบบนี้ มันทำให้นึกถึงเอเวนจ์ดเซเวนโฟลด์ขึ้นมาดื้อ ๆ และอาจจะเพราะความสำเร็จของเอเวนจ์ดเซเวนโฟลด์ทำให้มีวงดนตรีแบบนี้เกิดขึ้นมานับไม่ถ้วน
บางทีก็นึกเสียดายที่เสียงร้องและโครงสร้างเพลงไปแอบอิงกับดนตรีฮาร์ดคอร์ดิบหยาบ ยิ่งเสียงร้องของ จอห์น แคโรลี โหดห้าวตะเบ็งสะใจคนชอบฮาร์ดคอร์ บางช่วงจะกลับมาร้องแบบเสียงร้องมีท่วงทำนองทำให้อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกิดวงนี้หันไปเล่นแธรชเมทัลคงสมใจคนวัยชรามากกว่านี้!
แต่ฟังไปฟังมา รู้สึกว่าเสียงร้องมันกลับไม่ค่อยสะใจเท่ากับสมัยที่พวกเขาทำอัลบั้มอะเซอเคิลออฟโฮป ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ใต้ดิน ตรงนี้น่าเสียดายที่บอกว่าการขัดเกลาที่ทำให้ดู “ป็อป” ขึ้นนี้มันทำลายความเฉียบคมแบบในอัลบั้มก่อนเล็กน้อย
อาจจะเป็นเพราะว่าถ้าจะให้ได้อารมณ์ของฮาร์ดคอร์มันต้องทำให้ออกมาดิบสดไม่ปรุงแต่งมากนัก แต่ในอัลบั้มนี้ดูมีการปรับแต่งให้มันออกมาแรงขึ้น อย่างเช่นเสียงร้องในเพลง “โคลด์ ซัมเมอร์” ดูจะจงใจให้มันออกอ้วนหนาสั้นกระชั้นไปกันได้ดีกับการสลับมาร้องเสียงใสใน “ฮีโรส์ ออฟ เฟธ” ที่ให้เสียงประสานกันลงตัวเสนาะโสตเป็นที่ยิ่ง แต่สดใสเกินไปและดูตลาดเกินไป ยิ่งฟังซ้ำไปซ้ำมารู้สึกเหมือนว่ามีกลิ่นอายโบราณกลบบรรยากาศใหม่ของดนตรีเมทัลคอร์มากเอาการอยู่ คล้ายกับว่าได้กลับไปสู่ช่วงปลายทศวรรษ 80 หรือช่วงต้นทศวรรษ 90 ที่ดนตรีเมทัลกำลังกลายพันธุ์ไปสู่ดนตรีลูกผสม คือยังมีส่วนผสมของเมทัล โดยเฉพาะริฟฟ์แบบแธรชเมทัลและท่อนโซโล่มีท่วงทำนองงดงาม ไม่ได้กะให้เอามันส์แบบโหดห้าวสะใจอย่างเดียว
อินเดอะดิสแซสเทอร์เป็นงานที่ดีตามมาตรฐานทั่วไปของเมทัลคอร์ซึ่งมันทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยที่พวกเขายังฉีกตัวเองให้โดดเด่นและแตกต่างจากเมทัลคอร์ทั่วไปไม่สำเร็จ ทั้งที่จะว่าไปแล้ว ความสดมันส์และทักษะการเล่นที่โดดเด่นในอัลบั้มที่แล้วดูจะมีแววว่าน่าจะเป็นเลือดใหม่ของวงการเมทัลคอร์ที่น่าจับตามอง
ถ้าอัลบั้มอะเซอเคิลออฟโฮปเป็นงานที่ทำให้พวกเขาเปรียบเหมือนเพชรที่มีรัศมีเจิดจ้า อินเดอะดิสแซสเทอร์ทำให้พวกเขากลายเป็นแค่ลูกแก้วสวยงาม หยิบมาดูเล่นพอเห็นความใส ๆ งาม ๆ แล้วก็โยนทิ้งไปได้โดยไม่ต้องเสียดาย
Track Listing:-
- Cold Summer
- In The Disaster
- Of Day Dream And Fantasy
- Lets Spark To Fire
- The Black Art
- Romance Creates Killers
- Amadeus
- Another Revolution
- Dying To Be Beautiful
- Skate Junction
- Heroes Of Faith