ได้มีโอกาสไปพบปะพูดคุยกับเฮลโลวีนก่อนพวกเขาแสดงสดหนึ่งวัน ที่สำนักงานแพลตตินัม อาคารคิวเฮาส์ แถวเพลินจิต ไปถึงก็เจอคนคุ้นเคยหน้าเดิมค่อยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย
เท่าที่สังเกตดู สมาชิกแต่ละคนค่อนข้างจะกระตือรือร้นมาก ยกเว้นเดเนียล ลอเบิล (Daniel Löble) ที่ไม่ค่อยพูดค่อยจาอะไรเท่าไหร่ นั่งใกล้มาร์คัส กรอสคอปฟ์ (Markus Grosskopf) เห็นรอยสักเพียบ สังเกตว่าเป็นรูปปลาหลายรอยอยู่ เขาบอกว่าชอบปลามาก เวลาว่างก็ตกปลา และบอกว่าเขามีรอยสักเป็นรูปปลาสามแห่ง (เขาชี้ให้ดูด้วยด้วยพร้อม น่าเสียดายที่ลืมถ่ายรูปเอาไว้)
แอนดี เดริส (Andi Deris) หยอดคำหวานว่าที่นี่เป็นมิตรมาก ไปไหนมาไหนก็รู้สึกปลอดภัยดี ไม่เหมือนบางเมืองที่เขาไปไหนต้องมีบอดีการ์ดตามติดเพราะว่าอันตรายมาก แถมบอกว่าหลังจากจบเฮลลิชร็อก 08 ทัวร์ ราวเดือนกรกฎาคม ถ้ามีเวลาว่างจะมาพักผ่อนที่เมืองไทยเป็นการส่วนตัวด้วย
พอถามถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงสมาชิกวงว่ามีผลกระทบต่อดนตรีของพวกเขาบ้างมั้ย แอนดีบอกว่ามีเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่เขาจะเขียนเพลงอย่างที่เขาอยากจะเขียน ซึ่งมันจะเป็นเพลงที่มาจากหัวใจและความคิดของเขาจริง ๆ
ตรงนี้อยากจะบอกสวนกลับไปว่า ในความคิดส่วนตัวมองว่าดนตรีของเฮลโลวีนเปลี่ยนหลายครั้ง อย่างตอน พิงก์บับเบิลโกส์เอป ก็ดี หรือ คาเมเลียน ที่ออกไปนอกกรอบเลย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนมาก แต่พอมองแล้วเห็นว่าสมาชิกจากยุคนั้นเหลือพียงมาร์คัสกับไมเคิล ไวการ์ธ (Michael Weikath) แค่สองคน เลยไม่ถามต่อจะดีกว่า
ถามถึงงานชุด คีปเปอร์ออฟเดอะเซเวนคียส์: เดอะเลกาซี ตัวแอนดีก็บอกว่าตอนทำอัลบั้มนั้นพวกเขาพยายามทำเพลงให้มันยิ่งใหญ่ ซึ่งมันเป็นงานที่หนักมากกับเพลงที่ต้องสร้างให้อลังการและมีความยาว เขาต้องโหนเสียงสูงมากเป็นพิเศษ ซึ่งงานหลัง ๆ เขาจะผ่อนเสียงลงมามากขึ้น ส่วนเรื่องที่ว่าดนตรีเมทัลตายไปแล้วนั้นเขาไม่เชื่อ เขาบอกว่าเอ็มทีวีเป็นคนประกาศว่าเมทัลตายแล้ว ก็มีเด็กหลายคนเชื่อและหันหลังให้ดนตรีเมทัลแต่ว่าก็ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่คิดเช่นนั้น
แต่เขาก็ยอมรับว่าเอ็มทีวีมีผลกระทบต่อวิธีการตลาดมากเหมือนกัน แม้แต่ในเยอรมันก็โดนดนตรีอเมริกันครอบงำ อย่างดนตรีฮิปฮ็อปซึ่งเขาว่าคนหลายคนยังไม่เข้าใจว่าฮิปฺฮ็อปคืออะไร เนื้อหาสื่อถึงอะไร แต่แต่งตัวแบบแก๊งสเตอร์ทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
ในเรื่องการแต่งเพลงที่ทุกคนในวงดูจะแต่งเพลงกันได้ตลอด แล้วพวกเขาเลือกเพลงกันอย่างไร ว่าเพลงไหนควรจะเอาไปใส่ในอัลบั้ม แอนดีตอบง่าย ๆ ว่า ทุกคนจะมานั่งพิจารณากัน ถ้าเพลงไหนมันเข้ากับส่วนใหญ่ได้ก็จะใช้เพลงนั้น
จบวันนั้นด้วยความรื่นรมย์