มีละครเวทีหลายเรื่องสร้างขึ้นมาจากดนตรี อย่าง วีวิลร็อกยู (We Will Rock You) ที่เพิ่งจะมาเปิดการแสดงในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หรือว่า ทอมมี (Tommy) ร็อกโอเปราระดับมาสเตอร์พีซของเดอะฮู และที่กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดก็คือ มัมมามีอา (Mamma Mia) ที่ได้ดาราระดับแม่เหล็กอย่างเมอรีล สตรีฟ กับเพียร์ซ บอสแนน มาเป็นนักแสดงนำ เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากละครเวทีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงของวงป็อปที่โด่งดังในยุค 70 ที่ชื่อแอ็บบา (ABBA)
มัมมามีอา เป็นชื่อเพลงเด่นจากอัลบั้มที่ 3 ของแอ็บบาในปีค.ศ. 1975 (อัลบั้มนี้ใช้ชื่ออัลบั้มเรียบง่ายว่า แอ็บบา ตามชื่อวง) เป็นหนึ่งในเพลงที่บ่งบอกจุดเด่นของแอ็บบาได้ดี โดยเฉพาะเรื่องการเรียบเรียงเสียงประสานและการร้องประสานเสียงของฟรีด้าและแอ็กนีต้า มีท่อนฮุกที่ติดหูจดจำง่าย การเรียบเรียงดนตรีที่หนาแน่น มีพลัง ตามสไตล์ “กำแพงเสียง” (Wall of Sound) ของฟิล สเป็กเตอร์ แต่ก็ไม่เหมือนกับสไตล์ของฟิล สเป็กเตอร์เสียทีเดียว ยังมีความโปร่งบางร่าเริงสดใสอยู่ในสำเนียงดนตรีของพวกเขาเสมอ
ความแรงของภาพยนตร์ มัมมามีอา ทำให้อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ขึ้นไปถึงอันดับ 1 ในอังกฤษตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนในอเมริกาใช้เวลา 5 สัปดาห์ในการไต่อันดับชาร์ตอัลบั้ม 200 ของบิลบอร์ดขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาอัลบั้มรวมฮิต โกล์ด (Gold) ของแอ็บบากลับมาขึ้นถึงอันดับหนึ่งในอังกฤษอีกครั้งอย่างน่าประหลาดใจ งานรวมเพลงชุดนี้ออกมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1992 ซึ่งตอนที่ออกมาก็ขึ้นถึงอันดับหนึ่งในอังกฤษ และเคยกลับมาขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษอีกครั้งในปีค.ศ. 1999 ตอนที่รีมาสเตอร์ในโอกาสครบรอบ 25 ปีที่เพลง “วอเตอร์ลู” (Waterloo) จากอัลบั้ม วอเตอร์ลู) ชนะการประกวดยูโรวิชันซองคอนเทสต์เมื่อปีค.ศ. 1974
แอ็บบาประกอบด้วยสมาชิกสี่คือคือ เบนนี แอนเดอร์สัน บียอร์น อัลเวียส, แอกนีตา ฟอล์ตค็อก และ แอนนี่ – ฟรีด ลิงสตาด ตอนแรกมันเป็นโปรเจ็คท์ร่วมกันของเบนนี แอนเดอร์สัน กับบียอร์น อัลเวียส ทั้งคู่ทำอัลบั้ม ลิงค์คา (Lycka) ออกมาในปีค.ศ. 1970 โดยในอัลบั้มนี้มีแอกนีตา ฟอล์ทค๊อกและแอนนี-ฟรีด ลิงสตาดเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งมีแววว่าไปได้สวยเลยกลายเป็นวงดนตรีที่ชื่อ บียอน์นแอนด์เบนนีแอนด์แอกนีตาแอนด์แอนนี-ฟรีด ประสบความสำเร็จพอสมควรกับซิงเกิ้ล “พีเพิลนีดเลิฟ” (People Need Love) ในปีค.ศ. 1972 ปีถัดมาพวกเขาก็ตัดชื่อให้สั้นลงเอาตัวอักษรนำมาเรียงใหม่กลายเป็นแอ็บบา และมีเพลงฮิตต่อเนื่องหลายเพลงช่วงปีค.ศ. 1975 ถึง 1982 อย่างเช่น เอสโอเอส มัมมามีอา เฟอร์นันโด แดนซิงควีน เดอะเนมออฟเกม เทกอะชานซ์ออนมี จนอาจจะกล่าวได้ว่าสมัยนั้นพวกเขาเป็นวงดนตรีป็อปอันดับหนึ่งของสวีเดนที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก
ถึงแม้แอ็บบาจะเลิกทำงานร่วมกันตั้งแต่ปีค.ศ. 1982 แต่บทเพลงของพวกเขาก็ยังครองความนิยมจากคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ละปียังขายอัลบั้มได้เรื่อย ๆ ในหลักล้านแผ่น จนปัจจุบันนี้ยอดจำหน่ายอัลบั้มรวมทั้งหมดทั่วโลกของพวกเขาประมาณ 400 ล้านชุด มีศิลปินรุ่นหลังนำเพลงของพวกเขาไปทำใหม่นับไม่ถ้วน ที่เด่นก็มีอีพีแอ็บบา-อิกส์ (Abba-esque) ของอีเรเชอร์วงดนตรีซินธ์-ป็อปของอังกฤษ เดอะแอ็บบาเจเนอเรชันของเอ*ทีนส์ วงป็อปวัยรุ่นจากสวีเดน (ชื่อเดิมของวงคือแอ็บบาทีนส์ – ABBA Teens)
แอ็บบากลับมาแสดงร่วมกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมในงานเปิดตัวภาพยนตร์ มัมมามีอา! แต่ถ้าใครคิดว่า แอ็บบาจะกลับมารวมตัวกันก็คงต้องผิดหวัง เพราะว่าบียอร์นและเบนนี่ สองสมาชิกของวงบอกเด็ดขาดว่าจะไม่มีการกลับมารวมตัวกัน “ผมอยากให้คนจำเราแบบที่เรายังหนุ่มสาว ร่าเริงสดใสและเต็มไปด้วยพลังทะเยอทะยานมากกว่า” บียอร์นให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะซันเดย์เทเลกราฟไว้อย่างนั้น “ผมยังจำได้เลยว่าโรเบิร์ต แพลนต์บอกว่าเล็ดเซพพลินตอนนี้เป็นแค่วงคัฟเวอร์เท่านั้นแหละ เพราะเล่นแต่เพลงเก่าของตัวเองเท่านั้น ผมว่านั่นเหมือนตอกตะปูลงในหัวเลย…”
สำหรับผู้ที่เพิ่งหันมาสนใจเพลงของแอ็บบาจากภาพยนตร์ มัมมามีอา! แนะนำให้เริ่มต้นจากอัลบั้มรวมฮิตโกลด์ที่รวมเพลงเด่นของพวกเขาไว้ถึง 19 เพลง