แค่บอกว่าจะใช้วัตถุดิบที่ริชชี เจมส์ เอ็ดเวิร์ดสทิ้งเอาไว้ก็คงจะเรียกแฟนเพลงได้มากแล้ว!
แต่การสร้างดนตรีมารองรับการเนื้อเพลงที่ริชชีทิ้งเอาไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย ใครที่เคยฟังเดอะโฮลีไบเบิล คงจะนึกออกว่ามันจะมีความกดดันอึดอัดเพียงใด (ทางวงยังมีอารมณ์รำลึกความหลังแบบเดอะมานิกส์โดยใช้ภาพของศิลปินที่คนเดียวกับที่เคยนำมาใช้เป็นหน้าปก เดอะโฮลีไบเบิล)

ผลก็คืองานนี้ไม่ใช่การผสมผสานพังก์กับเมนสตรีมร็อกที่ลงตัวอย่างในชุดเซนด์อะเวย์เดอะไทเกอร์ ซึ่งอาจจะทำให้แฟนเพลงรุ่นหลังอาจจะรู้สึกแปลกกับบรรยากาศที่ออกดิบ ราวกับย้อนเวลาไปในวัย 20 ต้น ๆ ของพวกเขา
ไฮไลต์ของอัลบั้มนี้อยู่ที่เพลงสุดท้าย (ไม่นับฮิดเดนแทร็ก) วิลเลียมส์ลาสต์เวิร์ดส ที่แฟนเพลงหลายคนลงความเห็นว่าน่าจะเป็นจดหมายลาตายของริชชี แต่นิกกีปฏิเสธเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง เพลงนี้แตกต่างจากเพลงอื่น ไม่ใช่เป็นเพราะว่านิกกีเป็นคนร้องเพลงนี้ แต่บรรยากาศและท่วงทำนองของเพลงนี้มันฟังไม่เหมือนเดอะมานิกส์
สำเนียงโพสต์พังก์อบอวลในงานชุดนี้ หลายเพลง อย่างแจ็กกี คอลลินส์เอ็กซิสเทนเทียลเควสชัน ถ้าปรับเสียงให้ดิบและแรงขึ้นกว่านี้อีกหน่อยคงได้สำเนียงแบบเดอะมานิกส์สมัยออกอัลบั้มแรก แต่การปรับตัวของเดอะมานิกส์ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาเปลี่ยนพวกเขาให้สุขุมนุ่มลึกขึ้น
งานนี้ออกจะหม่นมืดมากกว่างานชุดที่แล้ว แต่ไม่ถึงขนาด เดอะโฮลีไบเบิล ยังพอรับกันได้ง่ายพอสมควร สำหรับคนที่ชอบเดอะมานิกส์ในยุคหลัง
2 ความเห็นบน “Manic Street Preachers: Journal for Plague Lovers”