ขณะที่เดอะแจ็กสันไฟฟ์ยังอยู่กับโมทาวน์ เขาได้รับการผลักดันให้ออกงานเดี่ยวหลายชุด โดยที่แต่ละอัลบั้มก็ไม่ได้แตกต่างไปจากงานในนามเดอะแจ็กสันไฟฟ์เท่าไหร่นัก
Got to Be There
Released: January 24, 1972
Label: Motown
Producer: Hal Davis, Willie Hutch
จากความสำเร็จของวงเดอะแจ็กสันไฟฟ์ ทำให้เบอรี กอร์ดีนายใหญ่โมทาวน์ เล็กเห็นจุดเด่นในตัวไมเคิล แจ็กสันจนมองหนทางทำกำไรเพิ่มขึ้นด้วยการให้ไมเคิล แจ็กสัน ออกงานเดี่ยวซึ่งในเรื่องของดนตรีแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเพลงของ เดอะแจ็กสันไฟฟ์แม้แต่น้อย ตัวอัลบั้มไม่มีอะไรโดดเด่นมากมายนัก แต่เสียงร้องของไมเคิลได้รับการผลักดันให้โดดเด่นเพลงอย่าง “ยูฟ์ก็อตอะเฟรนด์ ” (เพลงเก่าของคาโรล คิง) กับ “เอนต์โนซันไชน์ ” (เพลงเก่าของบิล วิธเธอร์ส)
Killer Tracks:
“ยูฟ์ก็อตอะเฟรนด์ ” ที่ไมเคิลได้โอกาสแสดงศักยภาพของเสียงได้เต็มที่
Ben
Released: August 4, 1972
Label Motown
Producer Hal Davis
สถานะของ เบน ไม่ได้แตกต่างไปจาก ก็อตทูบีแดร์ เท่าไหร่ เพียงแค่ว่าอัลบั้มนี้มีเพลงอันดับหนึ่ง “เบน” ซึ่งได้แรงส่งจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกันด้วย
Music & Me
Released: April 13, 1973
Label Motown
Producer Hal Davis
ปัญหาสำคัญของไมเคิลในช่วงปีค.ศ. 1973 ก็คือเสียงของเขาเริ่มแตก ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กวัยรุ่นชายทั่วไป แต่สำหรับเขาแล้วนี่คือเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกแย่ เพราะเสียงร้องที่แหลมใสของเขาต่างหากที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จัก และแฟนเพลงคิดถึง เท่านั้นยังไม่พอ การเปลี่ยนแปลงของกระแสดนตรีทำให้เขาต้องปรับตัวใหม่ด้วย
Forever, Michael
Released: January 16, 1975
Producer Edward Holland, Jr., Brian Holland, Hal Davis
เป็นผลงานที่ไม่ค่อยสร้างชื่อเสียงให้มากเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับชื่อเสียงที่เขามี แต่งานชุดนี้มีอะไรหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและแววความเป็นศิลปินที่โดดเด่นของไมเคิลไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้เสียงที่เริ่มลงตัว รวมไปถึงสไตล์ดนตรีที่เป็นพื้นฐานให้กับงานในนามเดอะแจ็กสันส์ในเวลาต่อมา
One Day in Your Life
Released: 1981
ป็นงานที่ โมทาวน์ เอาเพลงที่ไมเคิลบันทึกเสียงเก็บไว้ในช่วงปี 1973 -1975 มาออกในขณะที่เขากำลังประสบความสำเร็จจากอัลบั้มออฟเดอะวอล