ช่วงประมาณปีพ.ศ. 2531 – 2533 ได้ติดต่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านดนตรีกับใครที่ไม่รู้จักหลายคน อัดเทปแลกเปลี่ยนแบ่งปันกันฟัง และหนึ่งในเทปที่ได้มาแล้วทึ่งก็คือ Blue Blood ของ X (สมัยนั้นยังไม่ห้อย japan ต่อท้าย) เทปที่ได้รับมาคุณภาพไม่ค่อยดี เป็นแค่เทปที่อัดมาจากเทปอีกรอบ (หรือรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ) แต่ก็เปิดฟังแล้วฟังอีก พยายามหาข้อมูลและอัลบั้มอื่นมาฟังก็หาไม่ได้ ตอนนั้นโลกยังไม่กว้างอย่างทุกวันนี้ อย่าว่าแต่อินเตอร์เน็ทเลย แค่คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งยังไม่มีในครอบครอง
ผ่านไป 20 กว่าปี ก็ยังฟังอัลบั้มนี้อยู่สม่ำเสมอ นึกเสียดายไทจิอยู่หลายครั้ง ไม่น่าออกจากวงไปเลย การเล่นเบสของไทจิมีไลน์ชัดเจนไม่โดนเสียงกลองกลบ แถมยังขโมยซีนหลายครั้ง (ไม่ได้อยากจะเปรียบเทียบกับฮีธ แต่อดไม่ได้ เพราะฮีธเล่นเบสเจียมตัวมาก แค่คุมจังหวะไปพร้อมกับกลอง ทำให้บทเพลงของเอ็กซ์ขาดสีสันไปมาก (แต่ก็อย่างว่า โยชิกิคงอยากได้คนที่คุมได้มากกว่าคนมากฝีมือแต่คุมไม่อยู่) ลองฟังเพลงสุดโหดอย่าง “Blue Blood” เสียงเบสแทรกกำแพงเสียงกลองและกีตาร์คู่ได้สบาย
กีตาร์คู่ระหว่างฮิเดะกับพาตะวางแผนสอดประสานกันมาอย่างดี โดยเฉพาะไลน์โซโลประสานงดงาม ฟังครั้งแรกคิดว่าท่อนโซโล่มันเป๊ะไปหน่อย หมายถึงวางแนวทางในเรื่องท่วงทำนองเป็นหลัก แต่ผ่านไปพอสมควรเริ่มคิดได้ว่าการวางไลน์ตามท่วงทำนองที่ชัดเจนแบบนี้เหมาะสมแล้ว เพราะการคิดโซโลคู่ประสานกันไป ถ้าวางไลน์ไม่ดี เสียงกีตาร์อาจจะขัดกันได้ง่าย การวางไลน์เอาไว้ชัดเจนรอบคอบจะช่วยเลี่ยงจุดเสี่ยงที่อาจทำให้บทเพลงเสียหาย
โทชิเริ่มค้นพบเสียงร้องของตนเอง ไม่ได้ตะเบ็งเสียงอย่างในอัลบั้มแรก การโหนเสียงสูงของเขาเป็นสิ่งน่าทึ่งอย่างหนึ่ง รองรับบทบาททั้งเพลงบัลลาดไปจนถึงสปีดเมทัลได้สบาย
สมัยนั้น X ยังเป็นวง X ไม่ใช่แค่วงแบ็คอัปประดับบารมีของโยชิกิอย่างในปัจจุบัน แม้ว่าบทเพลงเกือบทั้งหมดจะมาจากมันสมองของโยชิกิ แต่เข้าใจว่าคงผ่านการขัดเกลาและเรียบเรียงให้เหมาะสมจากสมาชิกทุกคนในวงด้วย เพราะเทียบกับอัลบั้มอื่นแล้วงานนี้ครบเครื่องแทบทุกด้าน มีเพลงแรง หนัก อย่าง “Orgasm” กับ “X” มีเพลงออกไปทางแกลมเมทัลอย่าง “Easy Fight Rambling” มีเพลงบัลลาด “Endless Rain” กับ “Unfinished” อันงดงาม
อยากจะพูดถึงเพลง “Kurenai” เป็นพิเศษ เพลงนี้น่าสนใจในด้านพัฒนาการของ X เพลงนี้ทำเป็นเดโมเทปตั้งแต่ปีค.ศ. 1985 เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแนวทางการเรียบเรียงบทเพลงมาตลอด ทั้งทดลองเอาเสียงเครื่องสายมาใช้ เปลี่ยนเสียงอินโทรจากกีตาร์เป็นเปียโน และที่สำคัญมันมีส่วนผสมของสปีดเมทัล บัลลาด และซิมโฟนิคเมทัล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ต่อเนื่องมาตลอด อย่าง “Rose of Pain” (เพลงนี้บางช่วงใช้เพลง “Fugue in G minor, BWV 578” ของ Johann Sebastian Bach มาใช้)
วง X ก็เหมือนกับวงดนตรีอีกหลายวงที่พัฒนาด้านดนตรีและค้นหาตัวตนไปเรื่อย จากจุดแรกที่ยังไม่มีอะไรลงตัวใน Vanishing Vision จนเริ่มลงตัวใน Blue Blood และแตกแขนงต่อยอดใน Jealousy เป็นเรื่องปกติของวงดนตรีคณะหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงดนตรีไปตามวันเวลาเป็นธรรมชาติ อยู่ที่จังหวะไหนที่แฟนเพลงชอบมากเป็นพิเศษ บลูบลัดคืองานที่คลิกลงตัวกับแฟนเพลงบางคน จนรู้สึกว่าอัลบั้มหลังจากนั้นเริ่มหันเหทิศทางไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไปจนสูญเสียความน่าสนใจไปในที่สุด
X – Blue Blood
Columbia, 1989
Line-Up:-
- Vocals: Toshi
- Guitar: Pata
- Guitar: hide
- Bass: Taiji
- Drums, piano: Yoshiki
Track Listing:-
- “Prologue (~ World Anthem)” 2:38
- “Blue Blood” 5:03
- “Week End” 6:02
- “Easy Fight Rambling” 4:43
- “X” 6:00
- “Endless Rain” 6:30
- “Kurenai” (紅) 6:09
- “Xclamation” 3:52
- “Orgasm” (オルガスム) 2:42
- “Celebration” 4:51
- “Rose of Pain” 11:47
- “Unfinished” 4:24