Skid Row เป็นวงที่เคยทำดนตรีได้สด ใหม่ เปลี่ยนแปลงรูปแบบดนตรีไปตามวัยและลดความน่าสนใจลงเรื่อย ๆ
ถ้าเขียนไปแบบนั้นแฟนเพลง Skid Row คงสาปแช่งจากทั่วทุกสารทิศ เพราะแฟนเพลง Skid Row ต้องบอกว่าวงนี้เยี่ยมยอด ร็อกตลอดกาล ทำดนตรีเข้มข้นขึ้นทุกอัลบั้ม
อาจจะจริงแบบนั้นก็ได้
รู้จัก Sikd Row มาตั้งแต่ซิงเกิลแรก “Youth Gone Wild” หลงรักพวกเขาตั้งแต่อัลบั้มแรก อัลบั้มนั้นเพลงเยี่ยมทุกเพลง ย้ำว่าทุกเพลง เป็นหนึ่งในอัลบั้มฮาร์ดร็อกที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลจากยุค 80 แต่พอมาถึงชุดที่สอง Slave to the Grind พวกเขาหันมาเล่นหนัก ก้าวร้าว รุนแรง ลดท่วงทำนองและท่อนฮุคติดหูไปไม่ไยดี ยิ่ง sUBHUMAN rACE ที่หลงไปในวังวนอัลเทอร์เนทีฟยิ่งทำให้คนที่ชอบงานชุดแรกเริ่มตีตัวออกห่างมากขึ้นทุกที
พอเซบาสเตียน บาคลาออกจากวง ก็เหมือนตอกตะปูปิดฝาโลง บริษัทยกเลิกสัญญา อัลบั้มถัดจากนั้นไม่เคยลิ้มรสความสำเร็จ…อย่าว่าแต่ความสำเร็จอย่างงานชุดแรกเลย แม้แต่จะเอาไปเทียบกับชุด sUBHUMAN rACE ที่ถือว่าตกต่ำสุดแล้วในสมัยนั้นยังเทียบไม่ได้
ถึงแม้จอห์นนี โซลิงเจอร์จะเป็นนักร้องเสียงดีคนหนึ่ง แต่เทียบกับบาคจะมีความแตกต่างกันชัดเจน ทั้งการโหนเสียงสูงที่ทำได้ไม่ดีเท่า แต่ที่แย่กว่าคือ ขนาดเขาอยู่กับวงมานานเกินสิบปี คนยังนึกถึงบาคทั้งที่บาคอยู่กับวงไม่ถึงสิบปี
ที่สำคัญเขาไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองในฐานะคนเขียนเพลงเท่าไหร่ และพอจะได้โอกาสแสดงฝีมือเขียนเพลงในงานเดี่ยว ก็ทำออกมาเป็นเพลงคันทรี มันเลยเป็นภาพลักษณ์ที่ออกจะแปลกอยู่สักหน่อย
(หมายเหตุ ความจริงก่อนจะมาอยู่กับ Skid Row เขาเคยทำวงฮาร์ดร็อกมาก่อน แต่เนื่องจากไม่เคยฟัง..ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าปกอัลบั้มเสียด้วยซ้ำ เลยไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร)
ตอนที่ฟังอีพีนี้ครั้งแรก ผ่าน Soundcloud https://soundcloud.com/megaforcerecords/sets/skid-row-united-world ไม่ได้เกิดความรู้สึกยินดียินร้าย เพราะคิดว่านี่คือการลองเชิงของ Skid Row ว่าถ้าจะกลับมาครั้งนี้จะมีแฟนเพลงขนาดไหน การปล่อยเพลงที่กำกึ่งระหว่าง Slave to the Grind กับ sUBHUMAN rACE มีริฟฟ์ที่ติดหู ไม่โหดแต่หนัก เป็นตัวนำ “Kings of Demolition” เป็นเพลงที่ไม่เลว ถ้าไม่คิดว่าเป็นเพลงของ Skid Row คือถ้าไม่ยึดติดกับสองอัลบั้มแรก (แต่แฟนเพลงคงจะมีภาพพจน์ในใจพอสมควร) ดนตรีออกจะธรรมดาเกินไปหน่อย เป็นฮาร์ดร็อกทื่อ ๆ
บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าอะไรทำให้งานชุดแรกของ Skid Row มีเสน่ห์ อาจจะเป็นเสียงร้องของบาค หรืออาจจะเป็นฝีมือโปรดิวเซอร์ สิ่งเหล่านั้นหายไปในงานชุดหลัง ๆ แปรสภาพวงฮาร์ดร็อกแถวหน้ามาเป็นวงร็อกเกรดบี ขนาดว่าเอาเพลงตัวเองมาเล่นยังเหมือนเป็นวงคัฟเวอร์
ลองมาฟัง “This is Killing Me” น่าจะเป็นการโชว์ฝีมือหรืออิทธิพลของโซลิงเจอร์ เพลงบัลลาดสำเนียงคันทรี เสียงของโซลิงเจอร์ฟังเหมาะสมกับบทเพลงมากที่สุดเท่าที่เคยฟังมาก ทั้งการใช้เสียง เนื้อเสียง วิธีการร้อง การใช้ระดับเสียงที่เหมาะสม เพลงนี้ต่อให้บาคมาร้องก็ไม่ดีเท่านี้อีกแล้ว เพลงอื่นก็ใช้ได้มากกว่าใช้ไม่ได้ “Get Up” เป็นเพลงแรงที่มีลักษณะเฉพาะที่คุ้นเคยจาก Skid Row
ถ้าจะมีใครชื่นชมอีพีชุดนี้ ก็น่าจะมีเหตุผลเดียวคือในที่สุด พวกเขาก็หันกลับมาเดินในเส้นทางที่เคยสร้างชื่อให้กับพวกเขา