Livin’ on a Prayer บทเพลงที่ทำให้ บอน โจวี เป็นซูเปอร์สตาร์
จั่วหัวให้ดูยิ่งใหญ่หน่อย แต่เป็นเรื่องแปลกอยู่เหมือนกันที่ “ลิฟวิงออนอะเพรเยอร์” ของบอนโจวี กลับมาสู่ชาร์ตบิลบอร์ดฮ็อต 100 อีกครั้ง หลังจากที่ 25 ปีที่แล้วเพลงนี้เคยขึ้นถึงอันดับ 1
อะไรทำให้เพลงนี้กลับมาฮิต? หรือว่าบอนโจวีกำลังจะกลับมา! อ๊ะ บอนโจวีก็ไม่ได้หายไปไหน ยังทำเพลงไร้พลังอยู่เหมือนเดิม
ต้นเหตุมาจากวิดีโอนี้
ชายหนุ่มในภาพขื่อเจเรมี ฟราย กำลังดูกีฬาอยู่ที่ทีดีการ์เดนในบอสตันแล้วเพลงนี้ขึ้นมาระหว่างพัก เขาก็เต้นไปกับเพลงอย่างเมามันส์
วิดีโอนี้บันทึกไว้ตั้งแต่ปีค.ศ. 2009 แต่เพิ่งได้รับความสนใจในวงกว้างเมื่อเว็บยูเทรนด์ Utrend.tv อัปโหลดคลิปนี้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2013 จากนั้นคลิปนี้ก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และจากความโด่งดังของคลิปนี้ทำให้คนหันมาเปิดฟังเพลงนี้กันมากขึ้น (เนลสัน ซาวนด์สแกนผู้จัดอันดับรายงานว่า ขายเพลงนี้ในรูปแบบดาวน์โหลดถึง 4,000 ครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีคนฟังเพลงนี้ถึง 5.1 ล้านครั้งในสหรัฐอเมริกา เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนถึง 390% โดยสืบค้นได้ว่า 96% มาจากคนที่ได้ชมคลิปเจเรมี ฟรายเต้นระหว่างพักเกมการแข่งขัน
“ลิฟวิงออนอะเพรเยอร์” เป็นเพลงดังของบองโจวีที่แฟนเพลงต้องรู้จัก อยู่ในอัลบั้มสลิพเพอรีเวนเวต ผลงานที่เปลี่ยนวงฮาร์ดร็อกกึ่งแกล็มเมทัลให้เป็นวงป็อปร็อกระดับซูเปอร์สตาร์ ตอนแรกที่ จอน บอง โจวี เขียนเอาไว้ไม่ได้เหมือนกับเพลงที่ได้ยินกันทุกวันนี้ (หาเดโมฟังได้จากแผ่นในบ็อกเซ็ตชุด เทนทาวเซนต์บองโจวีแฟนส์แคนท์บีรอง) อย่างไรก็ตาม ด้วยสัมผัสมหัศจรรย์จากเดสมอนด์ ไชล์ด นักเขียนเพลงผู้อยู่เบื้องหลังเพลงท็อปเทนหลายเพลงเข้ามาช่วยให้เพลงนี้ฟังง่ายขึ้น รวมถึงการใช้ทอล์คบ็อกสร้างริฟฟ์ติดหู
เนื้อหาของเพลงว่าด้วยทอมมีกับจีนา คู่รักชนชั้นแรงงาน (ทอมมีน่าจะเป็นคนทำงานระดับล่าง ๆ ส่วนจีนาทำงานร้านอาหารอาจจะเป็นสาวเสิร์ฟ) ที่ดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตผ่านพ้นไปในแต่ละวันขนาดต้องเอากีตาร์ไปจำนำ แต่ก็ยังสู้กันต่อไป ปลอบใจกันว่า เรามาถึงครึ่งทางแล้ว เราต้องทำมันได้ จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน เหมือนว่าไม่มีวันจะพรากไป…
ไม่ใช่ละ…
We're half way there, Woah Livin' on a prayer, Take my hand and we'll make it - I swear
ว่าแต่ทอมมีกับจีนาเป็นใคร?
เรื่องราวของทอมมีและจีนา อาจจะมีเค้าลางมาจากชีวิตของเพื่อนจอน บอน โจวี แต่ริชี แซมโบรา มือกีตาร์ของวงบอกว่ามันเป็นเรื่องราวของพ่อแม่ของเขา แต่บ้างก็ว่าเป็นเรื่องของเพื่อนสมัยมัธยมของบอนโจวี
ทอมมี และจีนา ปรากฏอยู่ในเพลงของบองโจวี 3 เพลง
ทอมมีกับจีนา ปรากฏตัวครั้งแรกในเพลง “ลิฟวิงออนอะเพรเยอร์” ที่บอกเรื่องราวของพวกเขาตรง ๆ เมื่อปีค.ศ. 1986
Tommy used to work on the docks Union's been on strike He's down on his luck...it's tough, so tough
ทอมมีเป็นคนชั้นแรงงาน และตอนนี้สหภาพแรงงานกำลังหยุดงานประท้วง (ซวยเลยไม่มีรายได้)
Gina works the diner all day Working for her man, she brings home her pay For love - for love
จีนาทำงานในร้านอาหาร (น่าจะพนักงานเสิร์ฟ) ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว…น่าสงสารแต่เป็นความจริงขื่นขมของครอบครัวปากกัดตีนถีบ
เปิดเรื่องขึ้นมาก็บอกว่าสองคนนี้อยู่ในชั้นแรงงานฐานะไม่ค่อยดี
She says: We've got to hold on to what we've got It doesn't make a difference If we make it or not We've got each other and that's a lot For love - we'll give it a shot
จีนาบอกว่า เราต้องยึดสิ่งที่เรามีในตอนนี้ ไม่ว่าเราจะทำได้หรือทำไม่ได้ก็เหอะ
ทุกครั้งที่ฟังมาถึงตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นคำเสียดสีประชดประชันอย่างไรพิกลอยู่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนสมัยฟังเพลงนี้ใหม่ ๆ (น่าจะประมาณปีค.ศ. 1986 – 1987) จะรู้สึกเหมือนบรรทัดบน คือเป็นท่อนที่บอกให้สู้ เราต้องมีความหวัง แต่พอมาฟังในตอนนี้ได้ยินคำว่า for love แล้วรู้สึกว่าจริง ๆ ก็ไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ แต่ต้องทนอยู่โดยเอาคำว่ารักมาอ้าง
Ohh We're half way there Woah Livin' on a prayer Take my hand and we'll make it - I swear Woah Livin' on a prayer
เรามาถึงครึ่งทางแล้ว เราจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้
Tommy's got his six string in hock Now he's holding in what he used To make it talk - so tough, it's tough
ตัวตนอีกด้านหนึ่งของทอมมีเป็นนักดนตรี
Gina dreams of running away When she cries in the night Tommy whispers: Baby it's okay, someday
จีนาอยากไปให้พ้นจากสภาพแบบนี้ แต่ทอมมีคอยปลอบว่ามันจะดีขึ้น…ในวันหนึ่ง
“ลิฟวิงออนอะเพรเยอร์” มีองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจ อย่างแรกมันยังมีส่วนผสมของดนตรีฮาร์ดร็อกและเมทัลในท่อนริฟฟ์และภาคดนตรี มีการเล่าเรื่องแบบเดียวกับบ็อบ ดีแลนหรือบรู๊ซ สปริงสทีน และเรื่องราวที่เล่าเป็นเรื่องโรแมนติคจับใจคนหนุ่มสาววัยตั้งต้นทำงานลงไปจนถึงวัยรุ่น
ชื่อทอมมีและจีนาโดนพาดพิงถึงใน “99อินเดอะเฉด” จากอัลบั้มนิวเจอร์ซีย์
"Somebody tell me even Tommy's coming down tonight if Gina says it alright".
และได้รับการกล่าวถึงอีกครั้งใน “อิทส์มายไลฟ์” ในอัลบั้มครัช
This is for the ones who stood their ground For Tommy and Gina who never backed down Tomorrow's getting harder make no mistake Luck ain't even lucky Got to make your own breaks
จอน บอง โจวีให้สัมภาษณ์ตอนออกอัลบั้มครัชใหม่ ๆ ว่า ตอนนี้ทอมมีและจีน่ามีลูกน่ารัก 2 คนและเลี้ยงหมา…ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงตัวตนผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เพลงนี้หรือแค่เล่าเรื่องตลกอำคนฟังเฉย ๆ
“ลิฟวิงออนอะเพรเยอร์” ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตบิลบอร์ดฮ็อต 100 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 1987 และอยู่ที่อันดับ 1 นาน 4 สัปดาห์ บองโจวี สัมผัสชาร์ตบิลบอร์ดฮ็อต 100 ครั้งสุดท้ายกับเพลง “วี เวิร์นท์ บอร์น ทู ฟอลโลว์” ที่อันดับ 68 เมื่อปี 2009