หน้าปกอัลบั้มบอกชัดเจนว่าเป็นบันทึกการแสดงสดเมื่อปี ค.ศ. 1984 สมัยนั้นไวท์สเน็คเพิ่งออกอัลบั้มสไลด์อิทอินมาหมาด ๆ แต่สถานการณ์ภายในวงกำลังระส่ำระสาย เดวิดหัวเรือใหญ่ตัดสินใจละทิ้งเพื่อนเก่าที่ร่วมตั้งวงกันมาเพื่อเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่เขาคิดว่าสดใสและจะทำให้ไวท์สเน็คไปไกลกว่าอย่างจอห์น ไซคส์
ไวต์สเน็กเล่นบลูส์ร็อกเข้มข้นและกำลังเปลี่ยนผ่านมาสู่เฮฟวีเมทัลตามสมัยนิยมในอัลบั้มสไลด์อิทอิน
เมื่อจอห์น ไซค์ส อดีตสมาชิกวง ธินลิซซี เข้าร่วมวง แต่ดนตรีที่เล่นขณะนั้นยังมีพื้นฐานของบลูส์ร็อก
ทั้งที่ดูรายชื่อสมาชิกแล้วอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเล่นดนตรีแบบปี 1987 เป็นต้นมาจะเป็นอย่างไร
ถ้าใครจำได้ เคยเขียนถึงความเปลี่ยนแปลงของวงในช่วงนั้นไปแล้ว
มิกกี มูดี ลาออกจากวงอย่างเศร้าใจ (อ่านได้จากที่นี่) โคลิน ฮอดจ์คินสัน มือเบสก็ลาออก แต่ได้จอห์น ไซค์สกับนีล เมอร์เรย์มาเสริมน่าจะทำให้เดวิดพอใจมากขึ้น แถมยังได้จอน ลอร์ดมาเล่นคีย์บอร์ด (ก่อนที่จะลาไปร่วมงานกับดีพเพอเพิลที่กลับมารวมวงกันใหม่)
เคยฟังงานชุดนี้มาก่อนแล้ว เพราะมีบูทเลคของไวท์สเน็คออกมามากมาย จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานในแบบทางการของวงจะมิกซ์เสียงดีกว่า แต่พอเอาเข้าจริง ๆ บรรกากาศไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ที่แย่คือการเล่นกีตาร์ของจอห์นไม่เข้ากับเพลงเก่า ๆ ของไวท์สเน็ค โคซีตีกลองหนักและออกเฮฟวีเมทัล มีลูกเล่นแพรวพราว
อะไรที่อยู่ระหว่างการปรับตัวก็มีขลุกขลักบ้าง
มีเพลงซ้ำกันบ้าง (แต่มาจากคนละสถานที่) เลยเกิดความสงสัยมาเล็กน้อยว่าเพลงอื่น ๆ ไม่มีแล้วใช่มั้ย เอาแต่เพลงพวกนี้มาเล่นซ้ำ ๆ
บางเพลงแสดงอนาคตของไวท์สเน็คออกมาเลย เช่น “กิลตีออฟเลิฟ” เพลงนี้ไปอยู่ในอัลบั้มของไวท์สเน็คในอนาคต หรือในอัลบั้มของวงบลูเมอเดอร์ในอนาคตก็ได้ เพลงอย่าง “ครายอิงอินเดอะเรน” ในบันทึกเสียงการแสดงสดชุดนี้ก็ปรับเปลี่ยนไปจากต้นฉบับเดิมพอสมควรอยู่แล้ว แต่ยังไม่กระหึ่มแบบสมัยอยู่ในอัลบั้ม 1987
บางทีมือกีตาร์ที่เล่นได้เข้าขากับเดวิดมากที่สุดคงเป็นจอห์น
น่าเสียดายที่มีเรื่องส่วนตัวกัน
อัลบั้มนี้มีทั้งส่วนดีและไม่ดี ว่ากันแต่ข้อดีนี่คือบันทึกประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของไวท์สเน็ค สมัยที่มีมือกีตาร์ร้อนแรง มือกลองที่หนักแน่นและมีลีลามากมาย และกำลังปรับเปลียนตัวเองจากฮาร์ดร็อกรูปแบบเก่าไปสู่ดนตรีเฮฟวีเมทัล