สถานีตำรวจเซนต์ชาร์ลส์เคาตี แจ้งข่าวสู่สาธารณชนว่าชัค เบอรี ได้เสียชีวิต โดยมีคนพบเขาหมดสติในบ้านพักของตัวเองที่ถนนบังเกอร์เมื่อเวลาประมาณ 12.40 วันที่ 18 มีนาคม 2017 ซึ่งได้พยายามช่วยเหลือยื้ดชีวิต แต่ไม่เป็นผล ชัคเวลาเสียชีวิตเมื่อเวลา 13.26
คงจะได้อ่านคำอาลัยจากศิลปินมากหน้าหลายตากันแล้ว ทุกคนล้วนยกย่องว่าเขาคือผู้มีอิทธิพลต่อวงการดนตรี ดังนั้นจะนำคุณูปการที่เขาได้สร้างไว้มาเขียนถึงเพื่อเป็นการสดุดีเสียหน่อย
ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ก็คือ เขาคือผู้คิดค้นร็อกแอนด์โรล ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่มีคำว่าร็อกแอนด์โรลเกิดขึ้น
เรื่องนี้กลายเป็นข้อถกเถียง ถึงขนาดมีคนเคยเอ่ยถึงเอลวิส เพรสลีย์ว่าขโมยร็อกแอนด์โรลไปจากคนผิวดำ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงกันสิว่า ถ้าไม่มีเอลวิส ร็อกแอนด์โรลก็คงไม่ขึ้นไประดับนั้นได้เหมือนกัน เพราะเอลวิสมีเสน่ห์เฉพาะตัวทำให้วัยรุ่นหนุ่มสาวผิวขาวยอมรับดนตรีของคนผิวดำกว้างขวางมากขึ้น จะบอกว่ามีเรื่องสีผิวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ไม่ผิดมากนัก (ถ้ามีเวลาและไม่ลืมจะเขียนถึงภายหลัง)
กลับมาที่ชัค เบอรี
ถ้าจะมีใครสักคนที่คู่ควรกับยกย่องว่าเป็นผู้สร้างร็อกแอนด์โรล ก็คงเป็นชัค เบอรี เขาต่างจากผู้ร่วมทางรายอื่น เช่นในขณะที่เรย์ ชาลส์สร้างสรรค์เสียงร้องแบบโซล เจมส์ บราวน์คิดค้นจังหวะจะโคน โบ ดิดด์ลีคิดค้นสไตล์กีตาร์ ชัค เบอรีคือคนที่เอาทุกสิ่งทุกอย่างรวมกันไว้ในที่เดียว สร้างท่อนลิกโดยเล่นกีตาร์สองสายพร้อมกันสิ่งเหล่านี้คือทำให้เกิดร็อกแอนด์โรล
แถมเขายังข้ามไปถึงดนตรีฝั่งคนผิวขาว ราวกับว่าสีผิวไม่มีผลอะไรกับดนตรีของเขา และเรื่องนี้คือสิ่งที่ทำให้เขาต่างจากศิลปินร่วมรุ่นหรือที่มาก่อนหน้าเขา อย่างเช่นนำเพลงฮิลบิลลี “ไอดาเรด” มาดัดแปลงเป็น “เมเบลลีนส์” ต่อด้วยเนื้อหาสนุกสนานใน “สวีตลิตเติลซิกซ์ทีน” “โรลโอเวอร์บีโธเฟน” และ “ร็อกแอนด์โรลมิวสิก” แต่ละเพลงคือการผสานบลูส์ คันทรี แจ๊ส ในแบบฉบับตัวเองจนทำให้วงรุ่นหลังเจริญรอยตาม
และอย่าลืมว่าเขาไม่ใช่คนนักดนตรีหรือนักร้อง เขาคือคนที่ประพันธ์เพลงเอง คิดสไตล์เอง เนื้อหาก็เจาะใจวัยรุ่น ทั้งเรื่องความสนุกสนาน ปาร์ตี้ รถเร็วแรงหรู การคบหาสมาคมกับเพื่อนต่างเพศ เซ็กซ์
ในปลายทศวรรษ 1950 ชัคออกทัวร์เพียงลำพังคนเดียว มีเพียงกีตาร์ที่ติดมือไปทุกที่ แล้วค่อยหานักดนตรีท้องถิ่นมาเล่นด้วย และเป็นศิลปินผิวดำเพียงไม่กี่คนในตอนนั้นที่มีแฟนเพลงเป็นวัยรุ่นผิวขาว ส่วนใหญ่เป็นเด็กสาว ซึ่งเคยทำให้เขาพลาดพลั้งจนต้องใช้ชีวิตในเรือนจำระหว่างปีค.ศ. 1962 – 1965
18 กันยายน ค.ศ. 1926 – 18 มีนาคม ค.ศ. 2017