จดหมายเหตุความเจ็บปวด
ในอัลบั้ม เดอะโฮลีไบเบิล มีแต่เพลงที่หม่นเศร้า รุนแรง กราดเกรี้ยว แต่ในเนื้อหารุนแรงก็มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อย่างเช่น “อาร์ไคฟส์ออฟเพน” เพลงนี้
อินโทร
I wonder who you think you are. You damn well think you're God or something? God give life, God take it away, not you. I think you are the Devil itself
ฉันสงสัยว่าคุณเป็นใคร คุณคิดว่าคุณเป็นพระเจ้าหรืออะไร? พระเจ้าสร้างชีวิต พระเจ้าพรากมันไป ไม่ใช่คุณ ฉันคิดว่าคุณเป็นปีศาจ
ถ้อยคำช่วงเริ่มบทเพลงเป็นเสียงมารดาเหยื่อคนหนึ่งของปีเตอร์ ซัตคลิฟฟ์ หรือ เดอะยอร์กไชร์ริปเปอร์ ผู้สังหารหญิงสาว 13 รายระหว่างปีค.ศ. 1975 – 1980 บันทึกเสียงหลังจากที่เขาถูกตัดสินลงโทษ เดอะมานิกส์เลือกใช้เสียงบันทึกนี้เพื่อบ่งบอกทิศทางและอารมณ์เพลง
If hospitals cure Then prisons must bring their pain Don't be ashamed to slaughter The centre of humanity is cruelty There is never redemption Any fool can regret yesterday Nail it to the House of Lords You will be buried in the same box as a killer, as a killer, as a killer
ริชี เจมส์ เอ็ดเวิร์ดได้แรงบันดาลใจจากแนวคิดของมิเชล ฟูโก นักประวัติศาสตร์และปรัชญาชาวฝรั่งเศส ผู้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคมในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในงานเขียนชุด วินัยและการลงทันฑ์ (Discipline and Punish) แต่เชื่อว่าริชีก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวคิดของมิเชล ฟูโกทั้งหมด และความจริงมิเชลน่าจะไม่ได้สนับสนุนวิธีการลงโทษในศตวรรษที่ 19 เพียงแต่วิเคราะห์และอธิบายพัฒนาการการลงทันฑ์เพื่อแสดงให้เห็นว่าระบบการลงโทษในปัจจุบัน (สมัยที่เขาเขียนหนังสือ) ไม่ได้มีมนุษยธรรมและถูกต้องอย่างที่คิด
A drained white body hangs from the gallows Is more righteous than Hindley's crotchet lectures Pain not penance, forget martyrs, remember victims The weak die young and right now we crouch to make them strong
ไมรา ฮินด์ลีย์ ร่วมกับ เอียน แบรดดี ล่วงละเมิดทางเพศและฆาตกรรมเด็ก 5 คนอายุระหว่าง 10 – 17 ปี ช่วงปีค.ศ. 1963 – 1965 กรณีนี้ริตชีคิดว่าหากลงโทษประหารชีวิตไมราไปเลยยังดีกว่าปล่อยให้เธอเรียกร้องความสนใจและใช้ชีวิตในคุกอย่างคนมีชื่อเสียง เธอและแบรดดีรอดตัวไปด้วยการรับสารภาพและยอมรับความผิด
แต่เราไม่ควรให้ความสำคัญกับฆาตกร เราควรจดจำเหยื่อมากว่า ตรงนี้ทำให้นึกถึงละครชุด ไคร์มมินัลไมนด์ ที่เคยดู มีอยู่หลายตอนที่ระบุว่าการให้ความสำคัญกับฆาตกรก็เหมือนการส่งเสริม ริชี เขียนในเพลงนี้ว่า แทนที่เราจะส่งเสริมให้ฆาตกรเป็นคนดัง เราควรกำจัดทิ้งแล้วรำลึกถึงเหยื่อผู้สูญเสียดีกว่า
Kill Yeltsin, who's saying Zhirinovsky, Le Pen Hindley and Brady, Ireland, Allitt, Sutcliffe Dahmer, Nilsen, Yoshinori Ueda Blanche and Pickles, Amin and Milosevic Give them respect they deserve I give them the respect they deserve I give them the respect they deserve I give them the respect they deserve
ร่ายยาวถึงชื่อ
บอริส เซลต์ซิน ประธานาธิบดีคนแรกของสหพันธรัฐรัสเซียตั้งแต่ปีพ.ศ. 2534 ถึง 2542 เปิดเสรีทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วนำไปสู่ความมั่งคั่งในมือของผู้มีอำนาจและอาชญากร
วลาดีเมียร์ ซิรินอฟสกี้ นักการเมืองรัสเซียซึ่งมีข่าวฉาวมากมาย
ฌอง-มารี เลอแปง นักการเมืองฝ่ายขวาจัดของฝรั่งเศสและผู้นำอันยาวนานของพรรคเนเจอรัลฟรอนต์
ไมรา ฮินด์ลีย์ และ เอียน แบรดดี ฆาตกรช่วงปีค.ศ. 1963 – 1965
โคลิน ไอร์แลนด์ หรือที่เรียกว่า “มือสังหารเกย์” ฆาตกรรมชายรักร่วมเพศห้าคนในกรุงลอนดอนในปีค.ศ. 1993 (เสียชีวิตในคุก)
เบเวอรี อัลลิตต์ นักเรียนพยาบาล ฆ่าเด็ก 4 รายเมื่อปีค.ศ. 1991
ปีเตอร์ ซัตคลิฟฟ์ หรือยอร์กไชร์ริปเปอร์ สังหารเหยื่อ 13 ราย
เจฟฟรี ดาห์เมอร์ ฆาตกรที่มุ่งสังหารเด็กชาย ข่มขืนและกินเนื้อเหยื่อ
เดนนิส นิลสัน ฆ่าคนไป 15 คน ช่วงปีค.ศ. 1978 – 1983.
โยชิโนริ อูเอดะ ฆ่าคน 5 คน
ยูจีน บลังเช นักการเมืองผิวขาวในอัฟริกาใต้
เจมส์ พิกเกิล ผู้พิพากษาผู้อื้อฉาวในอังกฤษ
อีดี อามิน ประธานาธิบดีอูการดา
สโลโบดัน มิโลเซวิก (นักการเมืองยูโกสวาเวีย ผู้กลายเป็นอาชญากรสงคราม)
ให้พวกเขาได้รับผลกรรมไปเถิด Give them respect they deserve ในที่นี้ไม่ได้แปลตรงตัวว่าให้ความนับถืออย่างที่พวกเขาควรจะได้ แต่เป็นกรรมใดใครก่อก็ควรรับผลกรรมไป
Execution needed A bloody vessel for your peace If man makes death then death makes man Tear the torso with horses and chains
การประหารชีวิตเป็นสิ่งสมควร เหยื่อจะไม่มีวันได้พบความสงบสุขจนกว่าฆาตกรจะได้รับการลงทัณฑ์ ถ้าใครฆ่าคน ก็ควรได้รับผลกรรมนั้นเช่นกัน ใช้ม้าฉีกกระชากร่างให้ขาดเป็นท่อนเลยก็ได้
Killers view themselves like they view the world They pick at the holes Not punish less, rise the pain Sterilise rapists, all I preach is extinction
ฆาตกรมองตัวเองเหมือนที่พวกเขามองโลกใบนี้ พวกเขาขี้ขลาดและเกลียดตัวเองและความรู้สึกนั้นรุนแรงจนพวกเขาเอาไปลงที่คนอื่น พวกนี้ไม่ควรอยู่ในสังคม
ถ้าจะให้สรุปเนื้อหาของเพลงนี้ เชื่อว่าไม่ใช่เพลงที่มีเนื้อหาตาต่อตา ฟันต่อฟัน แม้จะมีเนื้อหาบางท่อนบอกให้ประหารฆาตกรเสีย แต่เป็นเรื่องต่อต้านการสรรเสริญเยินยอนำเสนอข่าวราวกับฆาตกรเป็นวีรบุรุษ/วีรสตรี