Pearl Jam: Jeremy
“Jeremy” เป็นเพลงของวง Peral Jam อยู่ในอัลบั้ม Ten เมื่อปีค.ศ. 1991 ตัดเป็นซิงเกิลวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1992 Eddie Vedder ผู้เขียนเนื้อเพลงนี้ บอกว่า เขาเขียนเพลงนี้หลังจากได้อ่านเรื่องราวของ Jeremy Wade Delle ซึ่งทำให้เขานึกถึงเพื่อนในวัยเรียนคนหนึ่ง
เนื้อเพลง
At home drawin' pictures of mountain tops With him on top, lemon yellow sun Arms raised in a "V" And the dead lay in pools of maroon below
Jeremy วาดภาพเป็นตัวเขายืนอยู่บนยอดเขาโดยมีดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่เบื้องหลังในลักษณะที่รุ่งโรจน์ ชูแขนเป็นรูปตัว “V” ซึ่งแสดงถึงชัยชนะ แต่ด้านล่างมีร่างของคนอื่นนอนตายในแอ่งเลือดข้างใต้เขา
ท่อนแรกของเพลง แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความรู้สึกที่อยากจะทำร้ายคนอื่น (ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ทำให้เขารู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า) เพราะการแสดงภาพตัวเองอยู่บนยอดเขาสูงมีดวงอาทิตย์ฉายแสงเป็นแบ็กกราวด์ แสดงความต้องการเป็นที่สนใจและโดดเด่นเหนือกว่าใคร
Daddy didn't give attention Oh, to the fact that mommy didn't care King Jeremy the wicked Oh, ruled his world
พ่อก็ไม่สนใจ แม่ไม่ใส่ใจ กษัตริย์เจเรมีผู้ชั่วร้ายปกครองโลกของเขา ท่อนนี้ยังสืบเนื่องจากท่อนแรก ในโลกจินตนาการ Jeremy สร้างตัวเองด้วยบุคลิกด้านอำนาจ การใช้พลัง ชัยชนะเหนือ “ศัตรู” ของเขา การสร้างตัวเองเป็น “กษัตริย์เจเรมีผู้ชั่วร้าย” ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของอำนาจหรือว่าทรราชย์ผู้ปราบอริราชศัตรูทั้งหลาย
Jeremy spoke in class today Jeremy spoke in class today
Clearly, I remember picking on the boy Seemed a harmless little fuck Ooh, but we unleashed a lion Gnashed his teeth and bit the recess lady's breast, how could I forget? My jaw left hurting, ooh, dropped wide open Just like the day, oh, like the day I heard
ท่อนที่ 2 เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของ Eddie Vedder ที่อธิบายในภายหลังว่า เขานึกถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งสมัยเรียนในซานดิเอโก เพื่อนคนที่เหมือนว่าไม่มีพิษภัย ด้วยลักษณะประโยค Ooh, but we unleashed a lion (เราได้ปลดปล่อยสิงโต) ตีความได้ว่า เด็กคนนั้นโดนกลั่นแกล้ง จนถึงวันที่ทนไม่ไหว ระเบิดสิ่งที่เก็บกดเอาไว้ออกมา เพื่อป้องกันตัวเอง หรือเพื่อแก้แค้น หรือ ทนการกลั่นแกล้งไม่ไหว
Daddy didn't give affection, no And the boy was something that mommy wouldn't wear King Jeremy the wicked Oh, ruled his world Jeremy spoke in class today Jeremy spoke in class today Jeremy spoke in class today Try to forget this (Try to forget this) Try to erase this (Try to erase this) From the blackboard

Pearl jam
Jeremy
อัลบั้ม Ten
วางจำหน่าย (ซิงเกิล) 17 สิงหาคม ค.ศ. 1992
Label Epic
ดนตรี: Jeff Ament
เนื้อร้อง: Eddie Vedder
Producers: Rick Parashar / Pearl Jam
Jeremy Wade Delle
8 มกราคม ค.ศ. 1991 Jeremy Wade Delle เด็กชายอายุ 15 ปี เข้าเรียนสาย Fay Barnett อาจารย์ประจำคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ บอกให้ Jeremy ไปขอใบเข้าเรียนจากสำนักงานอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน Richardson High School
Jeremy เดินออกไป แต่ไม่ใช่สำนักงานของอาจารย์ใหญ่ เขากลับเดินกลับไปล็อกเกอร์ หยิบปืนพกสมิธแอนด์เวสสัน แล้วกลับมาที่ชั้นเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ยืนหน้าห้องต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นเรียนและพูดว่า “มิส ฉันได้สิ่งที่ต้องการแล้ว” จากนั้นก็ยัดปากกระบอกปืนเข้าปากแล้วเหนี่ยวไก ฆ่าตัวตายต่อหน้าครูและเพื่อนร่วมชั้น 30 คน
เมื่อมีการค้นหาสาเหตุการตัดสินใจฆ่าตัวเองของ Jeremy ก็พบว่าเขาส่งสัญญาณออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว มีเพื่อนบางคนได้รับซองจดหมาย ซึ่งภายในเป็นข้อความลาตาย แต่น่าเสียดาย ในเวลานั้น Jeremy ยังไม่สนิทกับใครมากนัก เพราะเขาเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ได้ประมาณสองเดือนเท่านั้น
พ่อแม่ของ Jeremy แยกทางกัน เขาใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ และมีปัญหาทางสุขภาพจิตเป็นระยะ และได้รับการบำบัดอาการซึมเศร้าอยู่ในเวลานั้น
เรื่องราวของ Jeremy เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ Eddie Vadder ได้อ่านจึงนำมาประพันธ์เป็นเพลง แต่มีข่าวว่า ทั้งแม่และเพื่อนร่วมชั้นของ Jeremy ไม่ชอบและต่อต้านเพลงนี้เพราะนำเสนอภาพพจน์ของ Jeremy แบบผิด ๆ
“คุณไม่รู้จักเขาเลย คุณไม่ได้อยู่ที่นั่น เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างนั้น” Wanda แม่ของ Jeremy กล่าวอย่างนั้น
“วันนั้นที่เขาเสียชีวิต ไม่ใช่ชีวิตของเขาทั้งหมด เขาเป็นลูกชาย เป็นพี่ชาย เป็นหลาน เป็นญาติ เป็นเพื่อน เขามีพรสวรรค์’ เธอกล่าว
ส่วนเพื่อนร่วมชั้น หรือ คนที่รู้จัก Jeremy บอกว่า แค่ท่อนหนึ่งของเพลง Daddy didn’t give attention Oh, to the fact that mommy didn’t care มันไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง
เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่รำลึกถึง Jeremy ที่ http://jeremywadedelle.com
Eddie อธิบายว่าถึงแม้เขาจะเขียนเพลงนี้โดยอ่านจากข่าว แต่ตัวเขามีประสบการณ์จากเพื่อนร่วมโรงเรียนคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมไม่ต่างจาก Jeremy เพียงแต่รายนั้นไม่ได้ยิงตัวตายต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้น แต่ยิงตู้ปลาขนาด 1,000 แกลลอน
มิวสิกวิดีโอเพลงนี้มี 2 เวอร์ชัน โดยเวอร์ชันแรกกำกับโดย Chris Cuffaro
กับอีกเวอร์ชัน เป็นเวอร์ชันทางการของบริษัท Epic กำกับโดย Mark Pellington
เวอร์ชันของ Mark แสดงภาพที่ทรงพลัง แสดงถึงความแปลกแยกของเด็กชายออกมาได้น่าติดตาม ใช้สัญลักษณ์และถ้อยคำต่าง ๆ ในการสื่อความหมาย อย่างเช่น ผู้แสดงแทนตัว Jereny เท่านั้นที่เคลื่อนไหว คนอื่นในฉากต่าง ๆ จะหยุดนิ่ง และในตอนสุดท้ายภาพเพื่อนร่วมชั้นหยุดนิ่งมีเลือดสาดกระจายทำให้หลายคนตีความว่า Jereny ไม่ได้ยิงตัวเอง แต่ยิงเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งในความจริง Mark ไม่ได้มีเจตนาจะให้คิดเช่นนั้น แต่ด้วยการที่ต้องเซนเซอร์ในบางจุด เช่น ฉากที่ Jereny เอาปลายกระบอกปืนเข้าปากและลั่นไกโดนตัดทิ้งเพราะไม่เหมาะสม และจะไม่ได้เผยแพร่ในเอ็มทีวีแน่ ๆ ก็เป็นเหตุให้คนตีความตอนท้ายของวิดีโอไปอีกทางหนึ่ง
ในปี ค.ศ. 1996 Barry Loukaitis เดินเข้าไปห้องเรียน และยิ่งเพื่อนร่วมชั้น 4 คน (เสียชีวิต 3 คน) ซึ่งทนายของเขาแก้ต่างว่า วิดีโอเพลง “Jeremy” โน้มน้าวให้เขาทำแบบนั้น และมีการเปิดมิวสิควิดีโอเพลงนี้ให้คณะลูกขุนดูด้วย แต่ คำตัดสินก็คือผิดจริง และโดนจำคุก 189 ปี
ด้วยความทรงพลังในการเล่าเรื่องของวิดีโอนี้ทำให้ Pearl Jam ตัดสินใจไม่ทำมิวสิกวิดีโอไปอีกนานหลายปี เพราะคิดว่าเนื้อหาเรื่องราวของมิวสิกวิดีโอทำให้คนสนใจภาพและเรื่องราวที่เห็นมากจนกลบความคิดที่พวกเขาต้องการจะสื่อออกมาในเพลง จนกระทั่งปีค.ศ. 1998 ถึงได้ทำมิวสิกวิดีโอในซิงเกิล “Do the Evolution”