Badlands
Badlands วงดนตรีฮาร์ดร็อกก่อตั้งโดย เจก อี ลี (Jake E. Lee) อดีตมือกีตาร์ของ ออสซี ออสบอร์น
ในแวดวงดนตรี มีอะไรที่ผิดคาดเกิดขึ้นได้เสมอ วงดนตรีบางคณะมีคุณสมบัติล้ำเลิศพร้อมจะดัง แต่ก็ไม่ดัง บางคณะก็เหมือนว่าออกมางั้น ๆ ไม่เห็นมีอะไรโดดเด่น แต่ดันดังระเบิดโลก

บางที นอกเหนือจากฝีมือของนักดนตรี การผลักดันของบริษัท การบริหารงานที่ดี ก็ต้องอาศัยดวงชะตาเสริมส่ง
แบดแลนด์สเป็นวงซูเปอร์กรุ๊ปที่มีศักยภาพเพียงพอจะโด่งดังด้วยตัวเอง แต่ถึงที่สุดแล้วก็ยังไม่ดัง เกิดปัญหาภายในจนต้องแยกย้ายไปคนละทาง
ซูเปอร์กรุ๊ปคณะนี้ ใครเป็นใคร?
เจก อี ลี มือกีตาร์ที่เคยเคียงข้างออซซี ออสบอร์น
เรย์ กิลเลน (Ray Gillan) นักร้องนำที่เคยอยู่ในวงแบล็คซับบาธ
อีริก ซิงเกอร์ (Eric Singer) มือกลองผู้คร่ำหวอด เคยเล่นให้กับแบล็คซับบาธ
เกร็ก เชสสัน (Greg Chaisson) มือเบส อดีตสมาชิกวงสตีลเลอร์
ชื่อเสียงของสามคนแรกน่าจะทำให้แฟนเพลง แบล็กซับบาธ และ ออซซี ออสบอร์น สนใจได้ไม่ยาก
เจก อี ลี เริ่มต้นเล่นดนตรีกับวง ทีเซอร์ ก่อนจะเข้าร่วมวง มิกกีแรต ที่ภายหลังก็คือวงแรตต์ แต่ฝากฝีมือไว้เพียงแค่ซิลเกิลที่รวมในแผ่นรวมนักดนตรีหน้าใหม่ เมทัลแมซซาเคอ (อัลบั้มเดียวกับที่เมทัลลิกาบันทึกเสียงเพลงแรกของวงในงานชุดนี้ด้วย) จากนั้นก็มาอยู่กับวงรัฟต์คัตต์
โอกาสสำคัญมาเยือนเขาครั้งแรก เมื่อ รอนนี เจมส์ ดิโอ ออกจากวง แบล็กซับบาธ เพื่อจะทำวง ดีโอ ของตนเอง และเขาต้องการให้เจกเป็นมือกีตาร์
เสียงกีตาร์ที่ดุเดือดแสบสันต์ น่าจะเหมาะกับเสียงร้องแกร่งกร้าวของรอนนี
แต่อัตตาปะทะกันรุนแรงเกินกว่าจะร่วมงานกันได้ ภายในเวลาแสนสั้นไม่นานเดือน เจกก็โบกมือลารอนนี และกล่าวพาดพิงในภายหลังว่า รอนนีต้องการให้เขาเล่นกีตาร์ “ง่าย ๆ” ตาม “รูปแบบเดิม ๆ” เพื่อรองรับเสียงร้องของรอนนีเท่านั้น
ในปีนั้น เจก คงเป็นมือกีตาร์ที่น่าจับตามองในวงการดนตรีร็อกย่ายซันเซตสตริป เพราะไม่นาน ดานา สตรัม ก็แนะนำเขาให้ ออสซี ออสบอร์น เลือกเป็นมือกีตาร์ข้างกายทดแทน แรนดี โรดส์ ผู้ล่วงลับ
เจก อี ลี ทำงานกับ ออสซี ออสบอร์น เพียงแค่สองอัลบั้มคือ บาร์กแอ็ทเดอะมูน (1983)กับ อันติเมทซิน (1986) ก่อนจะได้รับโทรเลขจาก ชารอน ออสบอร์น ภรรยาและผู้จัดการของออซซีว่าเขาโดนไล่ออก ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่คนใกล้ชิดออสซีคาดไว้แล้ว เพราะถึงแม้ว่าเจกจะฝากฝีมือระดับสุดยอด (ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อคิดว่าเขามาแทน แรนดี โรดส์ ผู้ยิ่งใหญ่) แต่ความสัมพันธ์กับ ออซซี ออสบอร์น อยู่ในระดับย่ำแย่หลังจากร่วมงานกันได้ไม่นาน
ออสซี ออสบอร์น อ้างว่า เจก อี ลี อยากจะควบคุมทิศทางดนตรีเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว และนิสัยไปด้วยกันไม่ได้
ความจริงจะเป็นอย่างไรก็ช่างเถิด
ปีค.ศ. 1988 เจกได้พบกับ เรย์ กิลเลน ผู้ที่ลาออกจากแบล็คซับบาธเพราะเบื่อหน่ายปัญหาภายในวง และไม่เห็นอนาคตว่าแบล็กซับบาธจะในทิศทางไหน แม้แต่การบันทึกเสียงอัลบั้มใหม่ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแม้ว่าเพลงจะมีพร้อมและทำเดโมเทปแล้ว
เรย์เป็นนักร้องนำที่ล้มลุกคลุกคลานในแวดวงดนตรีฮาร์ดร็อกมานานหลายปี แต่ก็ยังไปไม่ถึงไหน ก่อนหน้าที่จะมาร้องนำให้กับแบล็กซับบาธก็เคยอยู่กับวง แวนเดตตา ของ นิก บัซซ์ และได้บันทึกเสียงอัลบั้ม วอร์แดนซ์ (Wardance) กับวง รอนดิเนลลิ ของ บ็อบบี รอนดิเนลลิ แต่อัลบั้มนั้นไม่ได้วางจำหน่าย จนกระทั่งทศวรรษถัดมา
ออกจากวงรอนดิเนลลิ เขาก็ไปร่วมวงแบล็กซับบาธ ทำเดโมสำหรับอัลบั้ม อีเทอนัลไอดอล (Eternal Idol) แต่ในเวลานั้นสถานะของแบล็กซับบาธง่อนแง่นและมีปัญหาภายใน ทำให้ เรย์ และ อีริก ซิงเกอร์ มือกลองในเวลานั้นต้องลาออกจากวง
เรย์ ไปร่วมวง บลูเมอเดอร์ ของ จอห์น ไซค์ ระยะหนึ่ง แต่ผู้บริหารบริษัทเกฟเฟนมองว่าเสียงร้องของเขาไม่เข้ากับเพลงของบลูเมอเดอร์ก็เลยต้องออกจากวง
หลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับ เจก อี ลี ซึ่งชวนเขาและ อีริก ซิงเกอร์ ให้มาร่วมวงด้วยกัน สมทบกับ เกร็ก เชสสัน มือเบสวงสตีลเลอร์ (ช่วงก่อนยุบวง) ซึ่งเจกได้รู้จักตอนที่เขามาทดสอบฝีมือเบสเพื่อร่วมวง ออสซี ออสบอร์น
และในปีค.ศ. 1989 ก็ออกอัลบั้มแรกมาในชื่อเดียวกับวง ผลงานชุดนั้นได้รับคำชมเชย ถึงจะมีเสียงติติงว่าบางส่วนไปละม้ายเงาร่างเลดเซพพลินบ้างก็ตาม อารมณ์บลูส์กับสำเนียงกีตาร์จัดจ้าน ทีมริธึมแน่น เสียงร้องที่โดดเด่น บทเพลงก็มีรสนิยมตามที่ฮาร์ดร็อกรากฐานบลูส์พึงมีพึงเป็น
อัลบั้มทำยอดจำหน่ายไปได้พอสมควร ราวสี่แสนแผ่นหลังจากผ่านปีแรก ซึ่งก็ถือว่าเป็นยอดจำหน่ายที่ไม่เลว แต่ในปีค.ศ. 1989 การทำวงฮาร์ดร็อกและชื่อเสียงปูมหลังของสมาชิกวงแต่ละคนทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะต้องทำยอดจำหน่ายเกินล้านแผ่น
ถึงแม้ว่า จะมีเพลงฮิตบ้างเล็กน้อย เช่น “ดรีมส์อินเดอะดาร์ก” และ “วินเทอร์สคอลล์” แต่พอจบทัวร์ อีริก ซิงเกอร์ ขอลาออกจากวงไปเล่นให้วงของ พอล สแตนลีย์ และต่อมาเป็นมือกลองของคิสอย่างเป็นทางการแทน อีริก คารร์ ) แบดแลนด์สดึง เจฟฟ์ มาร์ติน อดีตนักร้องนำเรเซอร์เอ็กซ์มาเป็นมือกลองแทน และเดินหน้าทำอัลบั้มลำดับที่ 2
แต่ระหว่างที่ทำอัลบั้มที่ 2, วูดูไฮเวย์ ปรากฏว่า เจก อี ลี กับ เรย์ กิลเลน เกิดทะเลาะกัน โดยฝ่ายเจกอ้างว่าเรย์สมคบคิดกับบริษัทพยายามเปลี่ยนแปลงทิศทางดนตรีให้ออกป็อปเพื่อหวังผลทางการตลาด
เรื่องนี้ก็พอจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะในเวลานั้น บริษัทแอตแลนติกเห็นว่าทางวงยังทำเพลงไม่ติดหูคนฟังทั่วไป อยากให้มืออาชีพทางด้านการเขียนเพลงมือทอง เดสมอนส์ ไชลด์ ผู้เขียนเพลงฮิตให้กับวงร็อก หลายวง (อย่างเช่น บอนโจวี, แอโรสมิธ และอีกมากมายหลายคณะ) เข้ามาช่วยวงเขียนเพลง ขณะเดียวกันก็เห็นว่าเพลงที่เรย์เขียนเอาไว้น่าจะบุกตลาดได้ แต่เจกไม่ยอมใช้เพลงของเรย์โดยอ้างว่าเพลงธรรมดาเกินไป
พออัลบั้มวูดูไฮเวย์ ออกวางจำหน่ายไม่เท่าไหร่ เรย์ก็ลาออกและบริษัทก็บอกเลิกสัญญากับแบดแลนด์สแทบจะทันที เจก อี ลี ให้นักร้องหญิงสไตล์โซลชื่อ เด็บบี้ ฮอลิเดย์ มาร้องแทน แต่เล่นได้ 2 – 3 ครั้งก็ต้องขอให้เรย์กลับมาร้องนำจนจบทัวร์อังกฤษ
ระหว่างนั้น เจก อี ลี ไปให้สัมภาษณ์ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับเรย์ในนิตยสารเคอแรงค์! และอีก 2 ฉบับถัดมา เรย์ก็ให้สัมภาษณ์ถึงเจกแบบไม่ค่อยดีเหมือนกัน และในคอนเสิร์ตที่ลอนดอนแอสโทเรีย เรย์ก็หยิบเคอแรงค์! ฉบับที่เจกให้สัมภาษณ์ขึ้นมาบนเวที และบอกว่าทุกเรื่องมีสองด้าน! เจกก็ตะโกนสวนว่า เออ จริง!
ไม่มีรายงานว่าหลังเวทีวันนั้นเป็นอย่างไร แต่พวกเขาออกทัวร์อังกฤษกันจนจบ และแยกย้ายกันไปคนละทาง ปล่อยให้แบดแลนด์สกลายเป็นความทรงจำต่อไป
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ หลังจากนั้น อัลบั้มของ แบดแลนด์ ก็หายไปจากสายการผลิตหลังจากที่เรย์เสียชีวิตด้วยเหตุเนื่องจากติดเชื้อเอชไอวี
ข่าวว่า สาเหตุเป็นเพราะผู้บริหารระดับสูงของแอตแลนติก รับปากญาติของใครบางคน ที่ต้องพบโศกนาฎกรรมเนื่องจากเรย์ปิดบังเรื่องติดเชื้อเอชไอวี แม้จะมีช่วงหนึ่งเกิดความผิดพลาดจนมีการให้เช่าลิขสิทธิอัลบั้มของของแบดแลนดส่กับบริษัทอิสระผลิตแผ่นขาย เมื่อผู้บริหารท่านนั้นทราบเรื่องภายหลังก็ขอให้บริษัทถอนสิทธินั้นปัจจุบันก็ไม่มีเพลงของแบดแลนดส์ในสตรีมมิงทั้งหลาย ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้งสองอัลบั้มเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก