Jason Everman

Jason Everman มือเบส มือกีตาร์ ทหารอาชีพ

ท่านจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเคยอยู่วงดนตรีคณะหนึ่ง แล้วออกจากวงไปก่อนที่วงจะประสบความสำเร็จระดับโลก?

แล้วถ้าเป็นแบบนี้ถึง 2 ครั้งล่ะ?

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับ Jason Everman

Jason Everman เกิดและเติบโตที่อลาสกา ดินแดนน้ำแข็งขั้วโลก แต่หลังจากพ่อแม่ของเขาหย่ากัน เขาก็ย้ายตามมารดามาอยู่ที่วอชิงตัน แต่ช่วงอายุ 17 เขาก็กลับมาใช้ชีวิตช่วงฤดูร้อนกับพ่อของเขาในอลาสกา โดยทำงานในเรือตังเก เรียนรู้การจับปลาและการซ่อมเรือ

แต่ในอีกด้านหนึ่ง เขาคือเด็กหนุ่มที่ชื่นชอบดนตรีร็อก โดยเฉพาะ KISS และ Black Sabbath ก่อนที่จะมาหลงใหลดนตรีพังก์และอินดีร็อก และทำวงดนตรีสไตล์แธรชเมทัล Stonecrow ตั้งแต่เรียนมัธยม (ปีค.ศ. 1985) โดยมือกลองของคณะนี้ก็คือ Chad Channing 

ในปีค.ศ. 1988 Chad เข้าร่วมวง Nirvana ทำให้ Jason ได้รู้จัก Kurt Cobain กับKrist Novoselic และในระหว่างทำอัลบั้มแรก Bleach ปรากฏว่า Nirvana มีปัญหาทางการเงิน ไม่สามารถหาเงิน 606.17 ดอลลาร์มาจ่ายค่าบันทึกเสียงได้ Jason ที่รู้จักกับสมาชิกอย่างดีและประทับใจเดโมเทปที่เขาได้ฟังก็เลยยื่นมือช่วยจ่ายเงินค่าทำอัลบั้มนี้ให้ (จากที่เล่า เขาหาเงินได้ราว 20,000 ดอลลาร์จากการทำงานในเรือจับปลากับพ่อของเขาในช่วงฤดูร้อน) 

Nirvana with Jason Everman
Jason นั่งข้าง Kurt Cobain ขณะเป็นสมาชิกวง Nirvana ปีค.ศ. 1989

และนั่นทำให้เขามีชื่อและรูปในฐานะมือกีตาร์ ในปกอัลบั้ม Bleach แต่เขาไม่ได้ฝากฝีมือการเล่นไว้ในอัลบั้มนั้นเลย และสมาชิกวง Nirvana บอกว่า ที่ใส่ชื่อเขาเป็นมือกีตาร์ในอัลบั้มนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ ที่เขาช่วยจ่ายค่าบันทึกเสียงอัลบั้มนี้ และ Bleach ที่จำหน่ายช่วงหลังจะไม่มีชื่อเขาเป็นสมาชิกวง แต่เปลี่ยนเป็นคำขอบคุณพิเศษแทน

แต่ก็ต้องถือว่าเขาเป็นสมาชิกทางการของ Nirvana เพราะเคยออกทัวร์กับวงในปีค.ศ. 1989 และบันทึกเสียงกับวงไว้ 2 เพลง คือ “Do You Love Me?” ในอัลบั้ม Hard to Believe: A Kiss Covers Compilation (1990) กับ “Dive” ในบ็อกเซต With the Lights Out(2004) ทั้ง 2 เพลงบันทึกเสียงในปีค.ศ. 1989

ปัญหาคือ สมาชิกวงก็ไม่รู้สึกว่าเขาคือ “คนที่ใช่” ในวง Nirvana และ Jason ก็รู้สึกว่า Nirvana ไม่ใช่ที่ของเขา เพราะเหมือนที่ทางใน Nirvana เป็นเพียงแค่ “มือกีตาร์อีกคน” เมื่อไม่สามารถปรับจูนการทำงานร่วมกันได้ เขาก็ลาออกจากวงเมื่อทัวร์คอนเสิร์ตในปีค.ศ. 1989 จบสิ้นลง

ตอนแรก เขาวางแผนว่าเมื่ออกจาก Nirvana จะไปปีนเขาหิมาลัย แต่ได้รับโทรศัพท์จาก Kim Thayil มือกีตาร์ Soundgarden แจ้งว่า Hiro Yamamoto มือเบสของวงลาออกกะทันหัน และทางวงกำลังจะออกทัวร์  Louder Than Love tour

Soundgarden with Jason Everman
Jason สมัยอยู่วง Soundgarden ค.ศ. 1990

ในซีแอตเติลเวลานั้น วง Soundgarden อยู่ในแถวหน้า และได้เซ็นสัญญากับบริษัท A&M records ถึงแม้ว่าในช่วงนั้นชื่อเสียงของ Soundgarden ยังไม่ได้อยู่ในระดับโลก แต่ด้วยความพร้อมของทุกสิ่งอย่างล้วนบ่งชี้ว่าการเป็นสมาชิกวง Soundgarden น่าจะเป็นความมั่งคงทางอาชีพ แตกต่างจาก Nirvana (ในเวลานั้น) ที่ยังไม่มีวี่แววจะประสบความสำเร็จ

Jason จึงเข้าร่วมวง Soundgarden แบบไม่ต้องคิด

แต่ เขาก็มีปัญหากับแนวความคิดของ Chris Cornell ทั้งปรัชญาการใช้ชีวิต และอื่น ๆ ซึ่งมีความซับซ้อนในฐานะวงดนตรี Kim Thayil เคยพูดถึงช่วงเวลานั้นว่า เป็นช่วงที่สมาชิกวงกำลังเคว้งคว้าง เพราะ Hiro ออกจากวงอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด และมีปัญหากันภายในพอสมควร

และ Soundgarden ก็ตัดสินใจว่า Jason ไม่ใช่ “คนที่ใช่” เขาจึงต้องออกจากวงหลังทัวร์จบลง ฝากฝีมือไว้ในเพลง “Come Together” ในอีพี Loudest Love (1990) และวิดีโอบันทึกการแสดงสด Louddest Live (1990)

หลังจากนั้นเขาก็ไปอยู่กับวงดนตรีที่น่าสนใจอีกคณะหนึ่ง คือ OLD เป็นแนวอินดัสเทรียลกึ่งเอ็กซ์ทรีมมิวสิก มีส่วนร่วมในอัลบั้ม Lo Flux Tube (1991) และบทเพลง “Who Are You” ในอัลบั้ม Masters of Misery – Black Sabbath: An Earache Tribute (1992) 

และเมื่อเขาย้ายไปอยู่นิวยอร์ก ก็ได้พบกับ Pat Dubar จากวง Mind Funk ซึ่งกำลังมองหาสมาชิกวงใหม่ และชวน Jason ให้มาร่วมเป็นมือกีตาร์ของวง โดยบอกว่าจะให้เขามีอิสระในการทำงานอย่างที่ชอบ ซึ่งมีผลงานคือ Dropped (1993)

และในปี 1994 เขาก็ออกจากวงการดนตรีไปรับราชการทหาร เพราะอีกด้านหนึ่งของเขาหลงใหลเรื่องราวสงคราม เช่น สงครามเวียดนาม แล้วตาของเขา ซึ่งเคยเป็นทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เคยเล่าประสบการณ์ของเขาให้ Jason ฟัง ซึ่งถ้าเป็นพังก์ร็อกทั่วไป แนวคิดการเป็นทหารคงเป็นคนละขั้ว แต่ Jason คิดอีกแบบ

และสิ่งที่เขาคิด ก็ไม่ใช่ปุบปับฉับพลัน เพราะ เขาเล่าว่า ตั้งแต่ปีค.ศ. 1993 เขาได้เตรียมพร้อมร่างกาย เช่น ตื่นเช้า ออกกำลัง ขี่จักรยาน วิ่ง และอื่น ๆ จนเมื่อจบทัวร์กับ Mind Funk เขาก็ไปที่ Fort Benning ในจอร์เจีย เพื่อสมัครเป็นทหาร

Jason Everman
Jason 1996

ในฐานะทหาร เขาได้ประจำการในสงครามอีรักและอัฟกานิสถาน ได้ร่วมหน่วยรบพิเศษ และปัจจุบันปลดประจำการเรียบร้อยแล้ว และกลับมาทำวงดนตรีชื่อ Silence and Light ออกอัลบั้ม Volume One (2019)

FR!DAY ! AM !N ROCK มองชีวิตของ Jason แล้วก็ได้แต่คิดว่า นี่คือคนที่มีชีวิตที่น่าสนใจคนหนึ่ง วงดนตรีทั้ง 4 คณะที่เขาเคยร่วมงานก็เป็นวงที่มีเอกลักษณ์ทางดนตรีน่าสนใจทั้ง 4 คณะ และสุดท้ายเขาเลือกที่จะเป็นทหาร ซึ่งเท่าที่อ่านความเป็นไปของเขาในฐานะทหารก็ถือว่าประสบความสำเร็จน่าชื่นชม 

Leave a Reply

Scroll to top
%d bloggers like this: