MSG with Graham Bonnet

เมื่อ แกรห์ม บอนเน็ต ร่วมงานกับ ไมเคิล เชงเกอร์

แกรห์ม บอนเนต (Graham Bonnet) เป็นนักร้องเสียงดี ต้องยอมรับว่า ริชชี แบล็กมอร์(Richie Blackmore) หูถึงจริง ๆ ถึงได้เลือกนักร้องเพลงป็อปที่ไม่เคยร้องเพลงฮาร์ดร็อกมาก่อนให้มาสืบทอดตำแหน่งนักร้องนำแทน รอนนี เจมส์ ดีโอ (Ronnie James Dio) ชายตัวเล็กผู้ยิ่งใหญ่ ในวง เรนโบว์ (Rainbow)

 แต่หลังจากออกอัลบั้ม ดาวน์ทูเอิร์ธ (Down to Earth) ได้เพียงอัลบั้มเดียว เขาก็ต้องออกจากเรนโบว์ และออกอัลบั้มเดี่ยว ไลน์-อัป (Line-Up, 1981) และมีเพลงฮิต “Night Games” แต่ในห้วงเวลานั้นก็ได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมวง ไมเคิล เชงเกอร์ กรุ๊ป (Michael Schenker Group)

ไมเคิล เชงเกอร์ กรุ๊ป ก่อตั้งโดย ไมเคิล เชงเกอร์ มือกีตาร์ผู้โด่งดังจากยูเอฟโอ โดยมี แกรี บาร์เดน (Gary Barden) เป็นนักร้องนำ แต่หลังจากปล่อยอัลบั้มบันทึกการแสดงสดที่ญี่ปุ่นมาออกจำหน่ายในชื่อ วันไนต์แอ็ตบูโดกัน อนาคตของแกรีในฐานะนักร้องนำของวงก็ต้องสั่นคลอน เมื่อ โคซี พาวลล์ (Cozy Powell) มือกลองกับ ปีเตอร์ เมนซ์ (Peter Mensch) ผู้จัดการวงต่างลงความเห็นว่า แกรี บาร์เดน ไม่เหมาะที่จะเป็นนักร้องนำของ ไมเคิล เชงเกอร์ กรุ๊ป ทั้งคู่อยากให้ เดวิด คัฟเวอร์เดล (David Coverdale) อดีตนักร้องนำดีพเพอเพิล มาเป็นนักร้องนำ แต่ในตอนนั้นไมเคิลกลับเล็งอดีตนักร้องนำวงเรนโบว์ที่ชื่อ แกรห์ม บอนเน็ต

ความจริงโคซีสนิทกับแกรห์มพอสมควร เพราะเคยเล่นร่วมวงเรนโบว์กันมาด้วยกัน และเมื่อแกรห์มต้องออกจากวงเรนโบว์ โคซียังอุตส่าห์มาร่วมทำวงแกรห์ม บอนเน็ตแอนด์เดอะฮูลิแกน (Graham Bonnet and the Hooligan) และช่วยตีกลองในอัลบั้ม ไลน์-อัป แต่ในเวลานั้น เขาสนับสนุนให้ไมเคิลเลือกเดวิดมากกว่า

“ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น” ไมเคิลเล่าความหลัง “เหมือนว่ามีคนอื่นพยายามยกระดับเอ็มเอสจี โคซีกับปีเตอร์อยากได้นักร้องนำที่ดีกว่าเดิม ปีเตอร์อยากได้เดวิด คัฟเวอร์เดล แต่ผมอยากได้แกรห์ม บอนเน็ต” 

และในเมื่อวงดนตรีชื่อไมเคิล เชงเกอร์กรุ๊ป ความเห็นของไมเคิลจึงมีน้ำหนักกว่า โคซีจึงรับหน้าที่เป็นคนทาบทามให้แกรห์มเช้าร่วมวง แต่พอซ้อมดนตรีกันได้ไม่กี่สัปดาห์ โคซีก็โบกมือลาไปร่วมวงไวต์สเน็กของ เดวิด คัฟเวอร์เดล

Assault Attack
หน้าปกอัลบั้ม แอซซอลต์แอตแท็ก

ไมเคิล เชงเกอร์ กรุ๊ป ในปีค.ศ. 1982 จึงมีสมาชิกประกอบด้วย ไมเคิล เชงเกอร์ (กีตาร์) แกรห์ม บอนเน็ต (ร้องนำ) คริส เกล็น (เบส) และ เท็ด แม็กเคนนา (กลอง) บันทึกเสียงอัลบั้ม แอซซอลต์แอตแท็ก (Assault Attack)  ผลงานที่ดีชุดหนึ่งของ ไมเคิล เชงเกอร์ น่าจะเป็นช่วงที่ไมเคิลกำลังมือขึ้นทำอะไรก็ออกมาดีไปหมด เสียงร้องของแกรห์มก็ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว

ทว่า ถึงอัลบั้มจะยอดเยี่ยม การร่วมงานระหว่างแกรห์มกับไมเคิลต้องจบลง หลังออกแสดงคอนเสิร์ตได้เพียงครั้งเดียว

“ผมไม่มีสติสัมปชัญญะเลย” แกรห์มยอมรับ “ผมดื่มเหล้าตลอดทั้งวัน แล้วก็ทะเลาะกับไมเคิลตลอด”

การแสดงสดครั้งแรกกลายเป็นหายนะ เพียงแค่การแสดงอุ่นเครื่องที่มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ เพื่อเตรียมความพร้อมไปเล่นเทศกาลดนตรีรี้ดดิง แกรห์มก็แสดงปัญหาให้เห็น

 “บ่ายวันนั้น เราดื่มกันเต็มที่ ถึงเวลาแสดงผมก็เมาเละไปแล้ว” แกรห์มเล่าความหลังวันหายนะทางอาชีพของเขา “ผมเอาเนื้อร้องไปบนเวทีด้วย แต่พอคนดูเบียดหน้าเวทีกันมากเนื้อร้องก็หายไป เพราะคนเบียนดจนมอนิเตอร์มันเคลื่อน ผมมีปัญหาตั้งแต่เพลงแรก” 

ในสมัยนั้นยังไม่มีจอมอนิเตอร์แสดงเนื้อเพลงให้นักร้องนำ ยังเป็นยุคที่เขียนเนื้อเพลงลงบนกระดาษ แล้วแปะมันไว้กับมอนิเตอร์ พอคนเบียดไปเบียดมา กระดาษเนื้อเพลงก็ฉีกขาดและหายไป

แค่ลืมเนื้อร้องยังไม่แย่พอ บังเอิญว่าวันนั้นซิปกางเกงดันแตกบนเวที แล้วแกรห์มไม่ใส่กางเกงใน แกรห์มน้อยจึงโผล่มาทักทายคนดูดุ๊กดิ๊กน่าเอ็นดู 

“ทุกคนเริ่มโห่ผม ผมก็เริ่มด่าคนดูกลับ พวกเขาก็ด่าผมกลับ ผมเลยลงเวที” แกร์หมเล่าความหลัง

ไมเคิล ซึ่งยืนอยู่อีกฝั่งเวที ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเขามองมาอีกที แกรห์มก็หายไปแล้ว “ผมเล่นอยู่ พอมองไปทางขวาอีกทีไม่มีนักร้องแล้ว เราจึงต้องแสดงต่อจนจบโดยไม่มีแกรห์ม และผมไม่เจอเขาอีกหลังจากนั้น”

ไมเคิล เชงเกอร์ กรุ๊ป 1982

แกรห์มยังเล่าต่อว่าหลังจากที่เขาเดินลงเวทีไปแล้ว ทีมงานคนหนึ่งของวงวิ่งไปบอกเขาว่า “พวกเขาฆ่าแกแน่ แกรห์ม ออกไปจากที่นี่ซะ”

แกรห์มเดินทางกลับไปที่โรงแรมที่พัก และเช้าวันรุ่งขึ้นก็แอบนั่งรถไฟหนีกลับลอนดอนอย่างเงียบ ๆ ผู้จัดการเป็นคนแจ้งว่าเขาโดนไล่ออกจากวง ไมเคิล เชงเกอร์ กรุ๊ป แล้ว“การแสดงที่เชฟฟิลด์เป็นประสบการณ์ที่น่าละอายมั้ย? ไม่หรอก เราเล่นต่อจนจบโดยไม่มีนักร้องนำ และมันก็ออกมาดีใช้ได้” ไมเคิล เชงเกอร์บอก

หลังจากนั้น แกรห์ม บอนเน็ต ก็ตั้งวง อัลคาทราซ ส่วน ไมเคิล เชงเกอร์ ให้ แกรี บาร์เดน กลับมาเป็นนักร้องนำอีกครั้ง

เว็บไซต์ทางการของไมเคิล เชงเกอร์ https://michaelschenkerhimself.com

2 responses to “MSG with Graham Bonnet”

  1. […] MSG with Graham Bonnetเรื่องราวของ … […]

Leave a Reply