Ozzy Osbourne กัดหัวค้างคาว ในปี 1982

Ozzy Osbourne กัดหัวค้างคาว เป็นวีรกรรมหนึ่งที่อยู่คู่กับเขาตลอดมาและจะอยู่ตลอดไป…

เห็นข่าว Ozzy Osbourne จะสร้างรังค้างคาวในบ้านที่อังกฤษแล้วก็นึกถึงวีรกรรมในอดีตของเขาขึ้นมาทันที

ใครเคยดู ลิตเติลนิกกี คงจำฉากไคลแม็กซ์ตอนนี้ได้

ถ้าไม่ใช่แฟนออสซี ออสบอร์น คงไม่ค่อยเข้าใจมุขนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นแฟนออซซีคงหัวเราะซาบซึ้งเป็นพิเศษ

ฉากนี้ล้อเลียนตำนานอันน่าจดจำของออสซี ออสบอร์น

ดังจะเล่าให้ฟังดังนี้

ระหว่าง ไอดารี ออฟ อะ แมดแมน ทัวร์ ออซซี ออซบอร์นเริ่มบ้าขนาดโยนเนื้อสัตว์สด ๆ ลงไปหาคนดู (ส่วนใหญ่เป็นตับวัวและหมู) พอข่าวแพร่ไป แฟนเพลงที่มาดูคอนเสิร์ตก็นำซากกบ ซากแมว และอีกมากมายไปคอนเสิร์ตเพื่อขว้างใส่ออซซี แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งทำให้ออซซีขวัญผวาเมื่อแฟนเพลงคนหนึ่งปาเศษชิ้นส่วนของตุ๊กตาเด็กขึ้นไปบนเวที แล้วมันเหมือนจริงมากจนออซซีนึกว่าเป็นชิ้นส่วนของเด็ก

แล้วมันเกี่ยวกับภาพยนตร์ ลิตเติลนิกกี ตรงไหน ? 

ด้วยความที่สมัยนั้นแฟนเพลงนำซากสัตว์ปาขึ้นไปบนเวที ก็มีเหตุให้จารึกว่าวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1982 ขณะที่แสดงคอนเสิร์ตที่หอประชุมอนุสรณ์สถานทหารผ่านศึกในดิมอยน์ รัฐไอโอวา มีคนดูประมาณ 5,000 คน

ทางตำรวจเมืองดีมอยน์เตือนผู้จัดการของออสซีไว้ล่วงหน้าแล้วว่าถ้ามีสัตว์โดนทารุณกรรมมีหวังออสซีได้เข้าคุกแน่นอนเพราะฝ่าฝืนกฎหมายรัฐไอโอวา

“เราได้ยินข่าวว่า (ออสซี) ออสบอร์น ยัดนกเข้าไปในปากของเขา และได้เตือนอย่างเป็นทางการว่าเขาจะโดนจับแน่นอนถ้าเขากัดมัน”

ทั้งทางตำรวจและผู้ดูแลอนุสรณ์สถานได้เตือนผู้จัดการแสดงไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องไม่มีการทำร้ายสัตว์ในระหว่างการแสดง ทางตัวแทนของออสซีก็ออกมาบอกว่าออสซีเพียงแค่ปล่อยนกพิราบ 7 ตัวอย่างที่เขาทำทุกครั้งในคอนเสิร์ตก็เท่านั้น ส่วนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ออสซีมักจะกัดตับสดบนเวทีแล้วพ่นทิ้งบนเวทีเมื่อจบการแสดง คนดูคิดว่าเขากัดอะไรบางอย่างที่มีชีวิต ซึ่งมันไม่จริงเลย ข่าวที่ว่าเขากัดหัวไก่ขาดสะบั้นในโอมาฮาก็ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด

การแสดงที่ดีมอยน์ดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งขว้างค้างคาวขึ้นไปบนเวที

ข่าวด้านหนึ่งอ้างว่าเป็นซากค้างคาวที่แฟนเพลงบังเอิญเหยียบตายในคอนเสิร์ต ข่าวอีกด้านบอกว่า มาร์ก นีล เด็กหนุ่มวัย 17 เตรียมค้างคาว “ที่ตายแล้ว” มาจากบ้าน แต่เรื่องเล่าอีกทางหนึ่งว่า ค้างคาวตัวนั้นยังไม่ตาย แต่เนื่องจากกำลังตกใจสภาพแวดล้อมในขณะนั้น มีไฟบนเวทีสว่างจ้า ทำให้มันนอนนิ่งไม่กระดุกกระดิก

ออซซีผู้ต้องการสร้างภาพให้ผู้คนจดจำหันไปเห็นค้างคาวบนเวทีก็เลยคว้ามันขึ้นมาชูให้คนดูเห็นแล้วยัดเข้าปาก กัดหัวค้างคาวหลุด

ในหนังสือ ไอแอมออสซี เขาบรรยายว่า 

“ทันใดนั้น มีบางอย่างผิดปกติ ผิดมาก มันเริ่มจากในปากของผมเต็มไปด้วยของเหลวอุ่น ๆ ด้วยรสชาติที่แขยงปากค้างอยู่ในคอ มันแย่ที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ ผมรู้สึกได้ว่ามันแทรกซึมไปตามร่องฟันและไหลลงมาตามคาง จากนั้นหัว (ค้างคาว) ในปากของผมก็กระตุก … นี่ผมไม่ได้กิน … ค้างคาวใช่ไหม”

แฟนเพลงโห่ร้องเกรียวกราวส่วนใหญ่นึกว่าเป็นการแสดงที่จัดเตรียมอุปกรณ์เอาไว้ก่อน

หลังจบการแสดง ออสซีโดนส่งตัวไปที่เมอซี ฮอสปิทัล เมดิคัล เซ็นเตอร์ และโดนส่งตัวไปที่บรอดลาวินส์ เมดิคัล เซนเตอร์ ที่มีวัคซีนพร้อมกว่า คืนนั้นเขาต้องจ่ายเงินค่ารักษาตัวราว 500 – 600 ดอลลาร์ (เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ที่บอกว่าเขาหอนระหว่างทางไปโรงพยาบาล เป็นเรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องจริง) และโดนหน่วยงานรัฐของดีมอยน์สอบสวนว่ามีการละเมิดหรือใช้ความรุนแรงต่อสัตว์ระหว่างการแสดงหรือไม่

ท่านสามารถอ่านรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ The Des Moines Register ได้ที่นี่ 

เหตุการณ์ออสซีกัดค้างคาวนี้ นิตยสารโรลลิงสโตนจัดเป็นลำดับที่ 2 ใน เรื่องแปลกประหลาดที่สุดในวงการร็อก (Rock’s Wildest Myths) เมื่อปีค.ศ. 2004 

นอกจากค้างคาว ออสซียังเคยกัดหัวนกพิราปมาก่อน

เมื่อออซซีกับชารอนได้พบผู้บริหารซีบีเอสเร็คคอร์ดในลอสแอนเจลิส (แต่นิตยสารกีตาร์ บอกว่านิวยอร์ก) ชารอนเป็นคนคิดไอเดียการเปิดตัวออซซีให้ผู้บริหารสนใจด้วยการเดินเข้าสำนักงานพร้อมกับโยนนกพิราบสองตัวให้โบยบิน เพื่อให้คนสนใจ

แต่เหตุการณ์มันไม่เป็นอย่างที่คิด ในหนังสือของมิก วอลล์ บอกว่าออสซีเบื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทเป็นอย่างมาก “ผมเอานกพิราบออกมาแล้วกัดหัวมันทิ้ง เพื่อจะให้เธอหยุดพูด แล้วผมก็จัดการกับอีกตัวหนึ่ง พ่นหัวนกบนโต๊ะ เมื่อพวกเขาโยนผมออกมา”

นี่คือ ออสซี ออสบอร์น

เขาไม่ได้บ้า

เขาเมา!