Quiet Riot

Quiet Riot – เขียนชื่อวงดนตรีคณะนี้ตัวใหญ่เป้ง พร้อมกับเครื่องหมายปรัศนีตัวโตใหญ่ๆ กำกับ ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมวงนี้ถึงดัง? เป็นคำถามที่ยังคาใจอยู่ถึงทุกวันนี้ เพราะถ้าพูดถึง Van Halen Poison Warrant หรือ Mötley Crüe แล้ว ยังมีอะไรบางอย่างบอกเราว่า ไม่ค่อยแปลกใจทำไมวงดนตรีเหล่านี้ถึงโด่งดัง

แต่กับ Quiet Rion นี่ต้องตั้งคำถามด้วยความสงสัยว่าพวกเขามีดีอะไร ถึงได้เป็นวงในสายแกล็มเมทัลคณะแรกที่นำอัลบั้มขึ้นถึงอันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ตได้สำเร็จ และมีซิงเกิ้ล “Cum On Feel the Noize” ติดท็อป 5 ในบิลบอร์ดฮ็อต 100

ไม่ว่าใครจะพูดถึงพวกเขาอย่างไรก็ตาม นี่คือข้อเท็จจริงที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์แกล็มเมทัล

Cum On Feel the Noize เพลงดังของ Quiet Riot

ที่สำคัญก็คือ ความจริงแล้ว วง Quiet Riot ถึงกาลอวสานไปแล้ว แต่กลับโดนปลุกชื่อมายิ่งใหญ่ได้อย่างไม่มีใครคาดคิด!

กล่าวกันว่า ในช่วงประมาณปีค.ศ. 1977 – 1978 วงดนตรีฮาร์ดร็อกแถวหน้าของลอสแอนเจลิสก็คือ Van Halen กับ ที่มีชื่อเสียงเคียงคู่กันแบบไม่ทิ้งห่าง ทั้งสองคณะเป็นที่กล่าวขานในด้านการเล่นสดได้สนุกสนานและมีมือกีตาร์เป็นจุดเด่น โดยทางฝั่ง Quiet Riot ก็คือ Randy Rhoads ส่วนทางฝั่ง Van Halen ก็มี ​Eddie Van Halen

Randy Rhoads ตั้งวง Quiet Riot ร่วมกับ Kelly Garni มือเบส ในปีค.ศ. 1973 ตอนแรกใช้ชื่อว่า Mach 1 แล้วเปลี่ยนเป็น Little Women ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Quiet Riot ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1975

Quiet Riot (ประมาณปีค.ศ. 1978) จากซ้าย Drew, Randy, Kelly และ Kevin

เล่ากันว่า Randy ได้ฟังบทสัมภาษณ์ของ Rick Parfitt มือกีตาร์วง Status Quo แล้ว Rick ชอบพูดว่า “quite right” แต่เนื่องจาก Rick ให้สัมภาษณ์ด้วยสำเนียงอังกฤษเข้มข้นRandy เลยได้ยินเป็น “quiet riot” แล้วเกิดชอบคำนี้ ก็เลยเอามาใช้เป็นชื่อวง

สมาชิกวงในตอนนั้นก็มี Randy Rhoads มือกีตาร์ Kelly Garni มือเบส และ Drew Forsyth เป็นมือกลอง Drew ก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เขาเคยอยู่กับวง Mildred Pierce ซึ่ง Randy กับ Kelly เคยเป็นสมาชิกวงมาก่อน จึงรู้ฝีมือดีอยู่ 

ส่วนนักร้องนำ พวกเขาได้ช่างภาพในลอสแอนเจลิสชื่อ Kevin DuBrow มาเป็นนักร้องนำ ทั้งที่ตอนแรก Kelly หรือ Drew หรือ อาจจะรวมทั้ง Randy ด้วย ไม่ได้ชอบ Kevin เท่าไหร่ เพราะเขาอยากได้นักร้องนำแบบ Alice Cooper หรือไม่ก็ David Bowie มากกว่า

แต่ Kevin ถือคติ “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” ในที่สุดเขาก็ได้เป็นนักร้องนำของวง และไม่ทำให้เพื่อนร่วมวงผิดหวัง เพราะในเวลาต่อมา Quiet Riot กลายเป็นวงดังในลอสแอนเจลิส มีชื่อเสียงตีคู่มากับ Van Halen แบบที่มีอะไรบางอย่างคล้ายกันอย่างน่าประหลาด นั่นคือ นักร้องไม่ใช่นักร้องเสียงดี แต่มีบุคลิกยียวนไปคนละแบบ แต่จุดเด่นเรียกแฟนเพลงก็คือ ฝีมือการเล่นกีตาร์ที่อยู่ในระดับแนวหน้า ไม่ใช่อันดับ 1 ก็อันดับ2 แบบไม่มีใครยอมเป็นอันดับ 2 รองจากอีกคน

แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ ในขณะที่ Van Halen ได้เซ็นสัญญาบริษัทใหญ่และกลายเป็นวงดังระดับโลกตั้งแต่อัลบั้มแรก แต่ Quiet Riot กลับไม่ได้ประสบความสำเร็จในสองอัลบั้มแรก แม้ว่าพวกเขาจะได้เซ็นสัญญากับซีบีเอสและออกอัลบั้ม Quiet Riot หรือ QR I (1977) และ Quiet Riot II หรือ QRII (1978) แต่ทั้งสองอัลบั้มนี้วางจำหน่ายเฉพาะญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียว ทั้งที่วงไม่เคยไปเล่นที่ญี่ปุ่นด้วยซ้ำ

Quiet Riot

​​Kelly เป็นคนแรกที่ต้องออกจากวงไป หลังบันทึกเสียงอัลบั้มลำดับที่สองเสร็จสิ้น ในเครดิตสมาชิกวงและรูปภาพที่ปรากฎในอัลบั้ม Quiet Riot II จึงเป็น Rudy Sarzo ที่เข้ามาแทน แต่คนที่เล่นในอัลบั้มคือ Kelly

เหตุผลที่ Kelly ลาออกก็เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Kevin มาถึงจุดแตกหัก Kelly มองว่า Kevin ไม่เหมาะสมกับการเป็นนักร้องนำของวง ขณะที่ Kevin ก็ไม่ค่อยชอบหน้าKelly และมีการกระทบกระทั่งกันเสมอ ส่วน Randy พยายามทำตัวเป็นกลางระหว่างทั้งคู่

Kelly พยายามโน้มน้าวให้ Randy ไล่ Kevin ออกจากวง ซึ่งทำให้สถานการณ์ในวงตึงเครียด มีคืนหนึ่งที่เขาเมาเหล้าหนักมากจนถึงขั้นชักปืนยิงเพดานสตูดิโอ หลังจากจากทะเลาะกับ Randy หนักหน่วงเรื่องจะไล่ Kevin ออกจากวง และที่ยิ่งไปกว่านั้น… หลายปีให้หลัง Kelly ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างบันทึกเสียงอัลบั้ม Quiet Riot II เขาขับรถมาสตูดิโอด้วยอาการเมามายเต็มที่ และมีความตั้งใจจะฆ่า Kevin ที่กำลังบันทึกเสียงร้องอยู่ แต่โชคดีที่ระหว่างทางเขาโดนจับข้อหาเมาแล้วขับเสียก่อน เลยไม่ต้องเป็นฆาตกร

ด้วยเหตุนี้ทำให้ Kelly ออกจากวงไปในที่สุด และคนที่เข้ามาแทนก็คือ Rudy ที่รู้จักกับสมาชิกวงมาก่อนหน้านั้นหลายปี

ตอนที่ได้มีโอกาสฟังงานของ Quiet Riot ในยุคนั้น (จากงานรวมเพลง The Randy Rhoads Years) แล้วออกจะประหลาดใจระคนผิดหวัง เพราะมันช่างแตกต่างจากสมัยที่ Randy บันทึกเสียงให้ Ozzy Osbourne พอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ Kevin DuBrow เคยให้สัมภาษณ์ถึงสองชุดแรกว่าเป็นความผิดพลาดของโปรดิวเซอร์ ขณะเดียวกันพวกเขาก็ไร้ประสบการณ์ในการทำงานบันทึกเสียงกัน ทำให้อัลบั้มมันออกมาแย่ขนาดนั้น

และที่ไม่นานหลังจากนั้น Randy Rhoads ได้รับการชักชวนจาก Dana Strum ให้ไปลองเล่นกับนักร้องนำจากเกาะอังกฤษที่ชื่อ Ozzy Osbourne ซึ่ง Ozzy ก็เลือก Randy ให้เข้าร่วมวง ทำให้เขาลาออกจากวง ซึ่งก็เหมือนการปิดฉาก Quiet Riot ไปโดยปริยาย

Kevin DuBrow

ถึงแม้ Kevinกับ Drew จะพยายามประคับประคองวง Quiet Riot ต่อมาอีกสักระยะหนึ่ง ให้ Greg Leon มาเป็นมือกีตาร์ของวง แต่ Greg ก็ไม่สามารถครองใจแฟนเพลงได้เท่า Randy ทำให้ Kevin ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อวงเป็น DuBrow เพื่อลบอดีตที่มี Randy เป็นเงาทะมึนอยู่

สำหรับ Greg นี้เป็นมือกีตาร์มีชื่อเสียงพอตัวในลอสแอนเจลิส เขาเป็นมือกีตาร์วง Suite 19 ที่มี Tommy Lee เป็นมือกลอง (ก่อนไปเข้าวง Mötley Crüe) เคยทำวง Greg Leon Invasionร่วมกับ Joey Vera (ซึ่งต่อมาไปทำวง Armored Saint) และเป็นมือกีตาร์ให้ Dokken ก่อนหน้าGeorge Lynch 

วง DuBrow มีสมาชิกหมุนเวียนเข้าออกหลายคน จนต้นปีค.ศ. 1982 Kevin ติดต่อRandy เพื่อขอใช้ชื่อ Quiet Riot อีกครั้ง ซึ่ง Randy ก็ยินดีให้เขาใช้ เพียงแต่บอกให้เขาติดต่อขอความยินยอมจาก Rudy Sarzo อีกคนหนึ่งก่อน สมาชิกวง DuBrow ในสมัยนั้นคือ Frankie Banali มือกลอง Chuck Wright มือเบส และ Carlos Cavazo เป็นมือกีตาร์ และสมาชิกชุดนี้ ก็เปลี่ยนชื่อวงเป็น Quiet Riot 

หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุสลดใจเมื่อ Randy ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก

  Quiet Riot ได้โอกาสเซ็นสัญญาออกอัลบั้มกับ Pasha Rec. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CBSอีกที มี Spencer Proffer เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นคนดูแลการผลิตอัลบั้มแรกของ Quiet Riot ด้วยตัวเอง 

Kevin ดึง Rudy Sarzo ให้มาช่วยบันทึกเสียงเพลง “Thunder Bird” ซึ่งเขาเขียนเพื่อรำลึกถึง Randy Rhoads ระหว่างนั้น Chuck ขอลาออกทั้งที่ยังทำอัลบั้มไปไม่เท่าไหร่ Gary Van Dyke มือเบสคนใหม่ที่เข้ามาได้แทนได้ไม่นานก็ลาออกไปอีก Rudy เลยเข้ามาเป็นมือเบสวงQuiet Riot เต็มตัว

ตอนแรกก็มีข้อครหาเรื่องที่ Kevin เอาชื่อ Quiet Riot มาใช้อีกครั้ง เหมือนกับความพยายามหากินกับชื่อเสียงของ Randy  Rhoads แต่ Dolores มารดาของ Randy ออกมาบอกเองว่าให้ทางวงใช้ชื่อไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก Randy ก็เต็มใจให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

อัลบั้ม Metal Health ออกวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1983  ในตอนแรกยอดจำหน่ายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ซิงเกิลแรก “Bang Your Head (Metal Health)” ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักพอประมาณ เพลงนี้กลับมาฮิตในปีค.ศ. 1984 เพราะนำไปประกอบในภาพยนตร์ Footloose และเพราะความดังของ Quiet Riot ในช่วงนั้นประกอบกัน

ชื่อเสียงเดินทางมาหาพวกเขาในเดือนสิงหาคม  ค.ศ. 1983  เมื่อพวกเขาปล่อยซิงเกิ้ลลำดับที่ 2 “Cum On Feel The Noize” เพลงเก่าของ Slade ออกมา ทำให้พวกเขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ ในช่วงเวลาไม่นานนัก ตอนแรก Kevin ไม่ค่อยชอบเพลง “Cum On Feel The Noize” เท่าไหร่ เพราะเขาอยากใช้เพลงของตัวเองล้วน ๆ แต่ Spencer ตัดสินใจว่าเพลงฮิตติดหูยังไม่มีเลย น่าจะเอาเพลงที่คนพอรู้จักมาเรียกความสนใจกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ถ้า Kevin ไม่ยอมเอาเพลงนี้มาบันทึกเสียง ก็อย่าหวังว่าจะปล่อยอัลบั้มออกมา

เล่ากันว่า Spencer รำคาญ Kevin ที่บ่นเรื่องนี้จนให้ Kevin ไปไกล ๆ ตอนเขามิกซ์เพลงนี้ 

และน่าจะเป็นเพราะความเห็นไม่ตรงกันเรื่องนี้ แถมยังหักหาญน้ำใจกันตรง ๆ ทำให้ Kevin กล่าวถึง Spencer ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ 

อัลบั้ม Metal Health ขึ้นไปถึงอันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ตทำยอดจำหน่าย 6 ล้านชุดเฉพาะอเมริกาเพียงแห่งเดียว และได้รับการจารึกชื่อว่าเป็นแกลมเมทัลคณะแรกที่ทำอัลบั้มถึงอันดับ 1 และมีซิงเกิลติดท็อป 5 อีกต่างหาก ทำเอาหลายคณะมองค้อนเพราะประสบความสำเร็จเกินหน้าเกินตาทั้งที่ดูไม่มีอะไรเป็นจุดขายมากนัก

แต่หลังจากนั้นมนต์ขลังของ Quiet Riot ก็ดูจะเสื่อมลง เพราะอยู่ ๆ ก็เหมือนว่าพวกเขาหมดมุกในการทำเพลง ต้องพยายามสืบสานความสำเร็จด้วยหนทางเดิม ๆ ใน Condition Critical ใช้เพลงเก่าของ Slade อีกครั้ง คือ “Mama We’re Crazy Now” ยอดจำหน่ายก็ไม่เลวนัก ยังขายได้เกินล้านชุดในอเมริกา แต่เรียกได้ว่ามันล้มเหลว ทั้งในแง่การวิจารณ์ว่าอัลบั้มนี้พยายามดำเนินรอยตาม Metal Health โดยไม่มีความน่าตื่นเต้นอะไรให้ค้นหาอีกแล้ว แต่ที่ยังทำยอดจำหน่ายสูงขนาดนั้นมาจากความดังตกค้างจากเดิมมากกว่าจะเป็นเพราะความพิเศษของตัวอัลบั้มเอง

แถมความสำเร็จจาก Metal Health ทำให้ Kevin เหลิงและลืมตัวไปชั่วขณะ ออกมาแสดงความเห็นพาดพิงทับถมคนอื่นมากมายทำให้หลายคนในวงการไม่พอใจ เป็นต้นว่า คุยโม้โอ้อวดว่าบรรดาแกลมเมทัลจากลอสแอนเจลิสได้อานิสงส์จากความโด่งดังที่ Quiet Riot บุกเบิกไว้ให้ถึงได้ลืมตาอ้าปากได้ เรื่องนี้ทำให้แม้แต่แฟนเพลงก็เริ่มหมั่นไส้ Kevin แม้แต่ Rudy เองก็รำคาญจนลาออกจากวงในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1985 ตอนนั้นได้  Kjell Benner มาเล่นขัดตาทัพไปพลาง ๆ แต่ Rudy ก็ยังกลับมาเล่นในงานรวมดาราร็อกเพื่อการกุศล Hear N’ Aid ของรอนนี เจมส์ ดีโอ แล้วก็ออกจากวงไปอีกรอบ Chuck Wright มือเบสคนเดิมก็กลับมาเป็นมือเบสให้วงแทน แต่ Quiet Riot III (1986) ซึ่งคราวนี้ขายได้ไม่ถึงห้าแสนแผ่นด้วยซ้ำ

เมื่อวงอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่อง ทีมบริหารและบริษัทต้นสังกัดก็กดดันให้สมาชิกวงออกเสียงโหวตให้ Kevin ออกจากวงในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987 โดยการแสดงครั้งสุดท้ายของทัวร์ที่ฮาวาย เขาก็พบตั๋วเครื่องบินสอดมาใต้ประตู พร้อมโน้ตเขียนให้รู้ว่าเขาโดนทางวงไล่ออก

สมาชิกที่เหลือดึง Paul Shortino อดีตนักร้องนำ Rough Cutt มาเป็นนักร้องนำแทนChuck Wright ลาออกจากวงไปอีกครั้ง ตอนแรก Rudy จะกลับมาร่วมวงด้วย แต่เขาได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าจาก Whitesnake จึงได้ Sean McNabb เลยเข้ามาเป็นมือเบสแทน อัลบั้ม Quiet Riot หรือ QR แต่คนชอบเรียกว่า QR IV) ในปีค.ศ.1988

และวง Quiet Riot ก็ยุบไปในปีค.ศ. 1989

ระหว่างนั้น Kevin ทำวง Little Women ซึ่งเป็นชื่อเดิมของวงก่อนเปลี่ยนมาเป็น Quiet Riot  โดยมี Sean Manning มือกีตาร์อายุเพียง 21 ปี Kenny Hillery มือเบส และ Pat Ashbyมือกลอง หลังจากนั้น Kevin กลับมาคืนดีกับ Carlos ร่วมมือกันทำวง Heat โดยมี Kenny ตามมาเป็นมือเบส ส่วนมือกลองเป็น Bobby Rondinelli และหลังจากที่ Kevin ได้กรรมสิทธิ์ชื่อQuiet Riot กลับมาอยู่ในมือ เขาก็เปลี่ยนชื่อวงเป็น Quiet Riot และออกอัลบั้ม Terrified ในปีค.ศ. 1993 แต่ Bobby ขอออกไปอยู่กับวง Black Sabbath แทน Frankie ก็เลยกลับมาเป็นมือกลองอีกครั้งหนึ่ง และ Chuck Wright ก็กลับมาเป็นมือเบสให้ระหว่างออกทัวร์

หลังจากนั้น Quiet Riot เปลี่ยนสมาชิกกันบ่อยครั้ง และทำอัลบั้มออกมาหลายอัลบั้มแต่ไม่มีอัลบั้มไหนประสบความสำเร็จเท่าเดิมเลย จนกระทั่ง 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 Kevin DuBrow เสียชีวิตเนื่องจากเสพยาเกินขนาด

หลังจากที่เควินเสียชีวิต Frank Banali มือกลองก็ทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่แทน โดยเขาร่วมกับ  Chuck Wright และ Alex Grossi ซึ่งอยู่ในทีม Quiet Riot ช่วง 3 ปีสุดท้ายก่อน Kevin เสียชีวิต เกาะกลุ่มกันต่อเนื่องยาวนาน แต่เปลี่ยนนักร้องนำไปหลายคน โดยคนแรกก็คือ Mark Huff อดีตนักร้องนำวง 5150 (วงคัฟเวอร์ Van Halen) 

แต่ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2012 ทางวงก็ออกข่าวว่า Mark ต้องออกจากวงเพราะเข้ารับการผ่าตัดสมอง โดย Keith St. John อดีตนักร้องนำวง Montrose เป็นนักร้องนำสำหรับทัวร์คอนเสิร์ตที่เหลือ ซึ่งเรื่องนี้ Mark เจ็บช้ำน้ำใจพอสมควรเพราะเขามารู้ข่าวตัวเองออกจากวงจากทางอินเทอร์เน็ต!

ทาง Frank บอกเพียงว่า เขาตัดสินใจให้ Mark ออกจากวงอยู่แล้ว เพียงแต่มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มาร์กป่วยพอดี คือ ต่อให้ไม่ป่วยก็โดนไล่ออก 

นักร้องนำคนต่อมาก็คือ Scott Vokoun เข้าร่วมวงอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 และออกในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โดยมี Jizzy Pearl อดีตนักร้องนำวงLove/Hate เข้ามาแทน และออกอัลบั้มในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 ใช้ชื่อ 10

Jizzy ลาออกในปีค.ศ. 2016 Seann Nicols อดีตนักร้องนำวง Steven Adler’s Appititeมาเป็นนักร้องนำแทน เตรียมปล่อยอัลบั้ม Road Rage ออกมาแล้ว แต่ต้องเปลี่ยนนักร้องนำกระทันเป็น James Durbin ทำให้ต้องบันทึกเสียงร้องใหม่

ช่วงปีค.ศ. 2019 Frankie Banali เริ่มไม่ปรากฏตัวร่วมเล่นดนตรีกับวง มี Johnny Kellyกับ Mike Dupke สลับกันมาเล่นแทน โดยไม่บอกกล่าวสาเหตุ จนกระทั่งช่วงปลายปีเขาถึงประกาศว่าเป็นมะเร็ง 

ระหว่างทำอัลบั้ม Hollywood Cowboys นั้น James ก็ลาออกทั้งที่บันทึกเสียงร้องไปแล้ว แต่คราวนี้พวกเขาไม่มีทุนบันทึกเสียงใหม่ ทางวงต้องเป็นคนจ่ายค่าเรียกคืนที่ผลิตไปแล้วกลับมาทำลาย แถมยังต้องรื้อภาพอาร์ตเวิร์กต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายในการบันทึกเสียง รวมไปถึงค่ามิกซ์เสียงใหม่ ซึ่งทางวงไม่มีเงินเหลือขนาดนั้น ก็ต้องปล่อยตามเลย โดยได้ Jizzy Pearl กลับมาเป็นนักร้องนำอีกครั้ง และ Frankie เสียชีวิตในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2020 Johnny Kellyเข้ามาเป็นมือกลองของวง ตามด้วย Rudy Sarzo เข้าร่วมวงในปีค.ศ. 2021  

ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่วงเคยดังระดับโลกตอนนี้เหลือเพียงแต่ชื่อเสียงในอดีตให้ไล่ล่าแบบรู้ว่าไม่มีทางจะกลับมาเหมือนเดิม

ความสำเร็จของ Quiet Riot เกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วครู่…พวกเขาเพียงแต่อยู่ถูกที่ ถูกเวลา จังหวะกำลังดี  แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรแบบนั้นได้อีก

One thought on “Quiet Riot

Leave a Reply

Scroll to top
%d bloggers like this: