The Beatles in Hamburg

The Beatles in Hamburg – ช่วงเวลาที่สี่เต่าทองบรรเลงดนตรีในฮัมบวร์ค ก่อนหน้าพวกเขาจะได้เซ็นสัญญาและโด่งดังเป็นตำนานต่อมา

เมื่อวันก่อน ไปอ่านโพสต์ในกลุ่มป้ายยาหนังสือ เจอโพสต์หนึ่งเขียนถึงหนังสือ แล้วมีตัวอย่างวง The Beatles ด้วย คัดลอกเฉพาะท่อนนั้นมาดังนี้

หรือแม้กระทั่งวงเดอะบีตเทิลหรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อวงสี่เต่าทอง การที่พวกเขาโด่งดังเป็นพลุแตกนั้นนอกจากความสามารถทางดนตรีของพอล แมคคาร์ตนีย์ และจอห์น เลนนอน แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เสริมส่งให้พวกเขาประสบความสำเร็จสูงสุดกว่าวงดนตรีไหนๆในยุคนั้นก็คือการที่พวกเขาได้รับ “โอกาส” ให้ไปแสดงที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี และมันไม่ใช่การแสดงธรรมดาๆ ทั่วไป แต่มันคือ การแสดงติดต่อกันอย่างยาวนาน ในทุกๆ วัน วันละราวๆ 8 ชั่วโมง

โพสต์ในกลุ่มป้ายยาหนังสือ https://facebook.com/photo/?fbid=5444871578955179

FR!DAY ! AM !N ROCK เกิดความสนใจขึ้นมา แต่ไม่มีหนังสือเล่มนั้นอยู่ในมือ เลยไม่แน่ใจว่ามุมมองของหนังสือเล่มนั้นกล่าวถึงช่วงเวลาที่ The Beatles อยู่ในฮัมบวร์คอย่างไรบ้าง

แต่สิ่งที่จำได้ ก็คือ George Harrison มือกีตาร์ของสี่เตาทองเคยเอ่ยถึงช่วงค.ศ. 1960 – 1962 ที่พวกเขาไปใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในเยอรมนีว่า George Harrison เคยออกความเห็นถึงช่วงเวลาที่เล่น ณ ฮัมบวร์คว่า มันเหมือนเวทีฝึกฝนก่อนที่พวกเขาจะสร้างซาวนด์ของตัวเองได้ เพราะการที่พวกเขาต้องแสดงคืนละ 6-7 ชั่วโมง พวกเขาต้องเรียนรู้บทเพลงมากมายเพื่อจะได้มีเพลงเล่นติดต่อกันยาวนาน อีกทั้งได้เรียนรู้การเล่นดนตรีต่อหน้าสาธารณะชนด้วย 

ฮัมบวร์ก เป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของสี่เต่าทอง แต่ถ้าจะบอกว่า เพราะพวกเขามีโอกาสได้เล่นที่นั่น แล้ววงดนตรีจากเกาะอังกฤษอีกหลายคณะที่ได้โอกาสแบบเดียวกัน อย่างเช่น Derry and the Seniors, Rory Storm and The Hurricanes ทำไมชื่อวงดนตรีเหล่านั้นแทบเลือนหายไปในประวัติศาสตร์ ในขณะที่ The Beatles กลายเป็นตำนานผู้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ดนตรีร็อกไปตลอดกาล

คำตอบนั้นมีปัจจัยซับซ้อนวุ่นวาย ซึ่ง FR!DAY ! AM !N ROCK รู้สึกว่าป่วยการคิด

แต่อยากเขียนถึง The Beatles ในช่วงเวลานั้น

ฮัมบวร์ค ทำไมต้องฮัมบวร์ค ?

ทำไมฮัมบวร์คจึงสำคัญ และ ถ้า The Beatles ยังอยู่ลิเวอร์พูลจะไม่ดังเชียวหรือ? อันนี้อาจจะต้องบอกว่าถึงลิเวอร์พูลจะเป็นต้นกำเนิด เมอร์ซีบีต แต่ฮัมบวร์คคือศูนย์กลางธุรกิจบันเทิงในภาคพื้นยุโรป

จำได้ว่า พี่แป๋ง พี่แหลม พี่เอกมันต์ แห่งวงวีไอพี เคยเล่าสมัยวงวีไอพีไปเยอรมนีและทัวร์ยุโรปไว้หลายครั้งหลายคน ถึงจะห่างจากสมัย The Beatles ร่วมทศวรรษ แต่คิดว่าภาพรวมไม่ต่างกัน วิไอพีไปเล่นที่เยอรมนี เพราะ ฮัมบวร์คเปรียบเสมือนประตูสู่ยุโรปสำหรับนักดนตรีที่เล่นตามคลับตามบาร์

ถ้าใครเป็นที่รู้จักในเมืองนี้ได้ โอกาสจะได้ไปส่วนอื่นของยุโรปก็ง่ายแสนง่าย

จึงต้องมาเล่าความสำคัญของเมืองฮัมบวร์คสักเล็กน้อย

ฮัมบวร์คเป็นเมืองที่มีสถานะเป็นนครรัฐในเยอรมนี มีชื่อเต็มว่า ฮัมบวร์ค เมืองอิสระและร่วมสันนิบาตฮันเซอ (Freie und Hansestadt Hamburg หรือ Free and Hanseatic City of Hamburg) ในแง่เศรษฐกิจแล้ว นี่คือเมืองท่าใหญ่เมืองหนึ่งในยุโรป (อันดับ 3 ในฐานะเมืองท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อ้างอิงจาก https://www.shiphub.co/the-largest-ports-in-europe/)

หลังการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก แต่เมืองฮัมบวร์คฟื้นคืนทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในบรรดาเมืองทั้งหมดของเยอรมนี เนื่องจากเป็นเมืองท่าสำคัญของยุโรป และเมื่อมีคนเข้าออกมากมาย ในฮัมบวร์คจึงมีพื้นที่พิเศษ ซังค์เพาลี ที่มีสิ่งบันเทิงทุกรูปแบบเพื่อรองรับผู้คนที่แวะเวียนกันมาเมืองท่าแห่งนี้

และด้วยความเป็นชุมทางสำคัญ ฮัมบวร์คกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจใต้ดิน และธุรกิจสีเทาต่าง ๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบถูกหรือไม่ถูกกฎหมาย สิ่งเหล่านี้ทำให้ย่านซังค์เพาลีมีเงินไหลเวียนสะพัดมาก มีคลับเปิดเป็นร้อยแห่ง แต่ละแห่งก็ต้องแข่งขันกันสุดฤทธิ์เพื่อเรียกลูกค้า

จากธุรกิจบันเทิงที่รองรับคนหลากหลายเชื้อชาติ พื้นที่แห่งนี้จึงเปิดรับวัฒนธรรมหลากหลาย (โดยเฉพาะจากอเมริกา) เมื่อ เอลวิส เพรสลีย์ นำร็อกแอนด์โรลโด่งดังยึดครองใจวัยรุ่นอเมริกัน และภาพยนตร์ Rock Around the Clock (1956) ได้รับความนิยม ฮัมบวร์คก็พร้อมอ้าแขนรับดนตรีแนวใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเมือง 

Bruno Koschmider เจ้าของคลับ Kaiserkeller เป็นหนึ่งในผู้นำวัฒนธรรมอเมริกันเข้ามาสู่ฮัมบวร์ค เขามองเห็นโอกาสจากความนิยมในวัฒนธรรมร็อกแอนด์โรล จึงเปลี่ยนคลับเปลื้องผ้าบางแห่งของเขาเป็นคลับสำหรับวัยรุ่นและดนตรีร็อกแอนด์โรล เริ่มจากการจ้างวงดนตรีท้องถิ่นมาเล่นดนตรีร็อกแอนด์โรล ร็อกอะบิลลี แต่สิ่งที่เขาทำในเวลาถัดมา เกือบจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าธุรกิจดนตรีในฮัมบวร์กไปเลย เมื่อเขาคิดได้ว่า น่าจะสั่งวงดนตรีจากอังกฤษมาแสดงที่คลับของเขา และคู่แข่งก็ทำตามกันคึกคัก

ในปีค.ศ. 1960 Bruno ได้มาชมการแสดงของวง Derry and the Seniors ที่ The 2i’s Coffee Bar ในลอนดอนแล้วประทับใจ รวมถึงสอบถามค่าจ้างนักดนตรีแล้ว ถูกกว่าจ้างคนเยอรมันอีก แถมได้ภาษาอังกฤษแบบต้นตำรับ เมื่อคิดทบทวนแล้วมีแต่แง่บวก เขาจึงมองหาคนที่จะเป็นตัวกลางสรรหาวงดนตรีไปเล่นในคลับของเขาที่ฮัมบวร์ก ทำให้เขาได้รู้จักกับ Allan Williams และช่วยประสานงานเจรจาให้วง Derry and the Seniors ไปเล่นที่ฮัมบวร์ค และมีชื่อเสียงอย่างมากที่นั่น 

อันนี้ต้องจารึกไว้ว่า Derry and the Seniors เป็นวงดนตรีจากลิเวอร์พูลคณะแรกที่ได้ไปเล่นที่ฮัมบวร์ค 

The Beatles

Allan Williams เป็นนักธุรกิจในแวดวงบันเทิง และต่อมาเขาได้ทำร้านกาแฟในลิเวอร์พูล ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก ลิเวอร์พูลอาร์ตคอลเลจมากนัก นักศึกษาเหล่านั้นก็มักจะมาชุมนุมสังสรรค์กันที่นี่ และ Allan ก็เข้ากันได้ดีกับวัฒนธรรม beat เขาจ้าง Stuart Sutcliffe กับ Rod Murray มาวาดภาพตกแต่งศิลปะบนผนังห้องใต้ดิน ซึ่งเปิดให้วงดนตรีท้องถิ่นมาบรรเลงในที่นี้ แน่นอนว่าวงดนตรี the Silver Beetles ของ Stuart Sutcliffe ก็มาเล่นที่นี่ด้วย

Stuart เพิ่งเข้าร่วมวง The Silver Beetles ประมาณปีค.ศ. 1959 ในตอนนั้นวงดนตรียังเปลี่ยนชื่อไปเรื่อย ๆ แต่สมาชิกหลักก็คือ John Lennon, Paul McCartney และ George Harrison เล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปีค.ศ. 1957 แต่ยังไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นวงดนตรีอาชีพ จนกระทั่งพวกเขาได้รู้จักกับ Allan เป็นการเปิดโลกทางดนตรีในแบบ “อาชีพ” เพราะต่อมา Allan เสนอตัวหางานให้วง The Silver Beetles โดยคิดค่าบริการเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์

จะบอกว่า Allan เป็นผู้จัดการวง The Silver Beetles แบบไม่เป็นทางการก็คงได้

เมื่อ Larry Parnes ผู้จัดคอนเสิร์ตชื่อดัง เปิดทดสอบวงดนตรีเพื่อจะเป็นวงแบ็กอัปให้ Billy Fury เพื่อทัวร์คอนเสิร์ตในอังกฤษ Allan ก็เป็นคนหา Tommy Moore มาเป็นมือกลองให้วง ซึ่งในตอนนั้นใช้ชื่อว่า The Silver Beats (แต่ถึงวันไปทดสอบฝีมือจริง ให้ Johnny Hutchinson เป็นมือกลอง)

เล่ากันว่า Larry ประทับใจ Silver Beats และตกลงใจจ้างด้วยค่าตอบแทน 20 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ต้องเปลี่ยนมือเบส ซึ่งทาง Silver Beats ปฏิเสธข้อเสนอนั้น

Paul McCartney รำลึกความหลังว่า ในตอนทดสอบฝีมือนั้น Stuart ไม่ค่อยสนใจจะเล่นมากนัก อีกทั้งหันหน้าหนีคนที่อยู่ชมการทดสอบตลอดเวลา อย่างไรก็ดี Larry ก็ยังให้โอกาส The Silver Beats เป็นวงแบ็กอัปให้กับ Johnny Gentle เมื่อออกทัวร์สก็อตแลนด์ในปีค.ศ. 1960 และเนื่องจากพวกเขา ต้องใช้ชื่อ Johnny Gentle Band  สมาชิกวงก็เลยหาชื่อแฝงเสียเลย Paul McCartney ใช้ชื่อ ‘Paul Ramon (ใช่แล้ว นี่คือต้นกำเนิดชื่อวง The Ramones) Stuart Sutcliffe ใช้ชื่อ Stuart de Staël ส่วน George Harrison กลายเป็น Carl Harrison และ john Lennon กลายเป็น Long John

การทัวร์ครั้งแรกของพวกเขาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ความสัมพันธ์กับ Billy ค่อนข้างดี John ช่วยปรับแต่งเนื้อเพลง ‘I’ve Just Fallen For Someone’ และเสนอแนะเรื่องดนตรีเล็กน้อย แต่พวกเขาไม่ได้รับเงินค่าจ้างจาก Larry จนต้องออกแรงทวง ระหว่างนั้นพวกเขาต้องนอนในรถตู้ แทนที่จะได้นอนในโรงแรม

หลังจากสิ้นสุดการทัวร์ พวกเขาก็กลับมาอังกฤษ และเล่นตามคลับต่าง ๆ ตามที่ Allan ติดต่อให้ ตอนนั้นพวกเขาเริ่มใช้ชื่อ The Beatles แต่ส่วนใหญ่ยังใช้ชื่อ The Silver Beetles แต่แล้ว จู่ ๆ วันหนึ่ง Tommy มือกลองก็ไม่โผล่หน้ามาเล่นดนตรี เมื่อพวกเขาไปตามมือกลองที่บ้านก็รับทราบว่า Tommy ไปทำงานเป็นคนขับรถในโรงงานแล้ว และไม่ยอมกลับมาเป็นมือกลองของวงอีก

และ มือกลองก็เปลี่ยนไปอีกแต่ว่าแต่ละคนก็อยู่ไม่นาน ในบางขณะนั้น Paul ต้องรับหน้าที่เป็นมือกลอง เมื่อหามือกลองมาแทนไม่ได้

The Beatles in Hamburg 

แต่ในช่วงเดือนสิงหาคม 1960 Allan เสนอให้ The Beatles ไปเล่นที่คลับในฮัมบวร์ค เดิมที Allan อยากให้วง Rory Storm and The Hurricanes ไปเล่นที่ฮัมบวร์ค แต่ในช่วงเวลานั้น Rory Storm and The Hurricanes ติดสัญญาเล่นที่อื่นอยู่ ไม่สามารถไปเล่นได้ รวมทั้ง Gerry & The Pacemakers ก็ไม่มีคิวว่าง Allan เลยส่ง The Beatles ไปฮัมบวร์คแทน แม้ว่าในเวลานั้น The Beatles จะไม่มีมือกลอง Allan เป็นคนติดต่อ Pete Best ให้มาตีกลองกับวง โดย Pete มาลองทดสอบเล่นกับวงในวันที่ 13 สิงหาคม พอวันที่ 15 สิงหาคม วง The Beatles ก็เดินทางไปเยอรมนี และแสดงครั้งแรกที่คลับ Indra ในวันที่ 17 สิงหาคม 

The Beatles in Hamburg
The Beatles ที่ Indra Club จากซ้ายไปขวา John Lennon, George Harrison, Pete Best, Paul McCartney และ Stuart Sutcliffe 

The Beatles เซ็นสัญญาเป็นเวลา 3 เดือน โดยพวกเขาเล่นที่คลับ Indra ของ Bruno คืนละ 6 – 7 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ สัญญาครั้งนั้นยาวนานสามเดือนครึ่ง 

 Paul McCartney เคยเล่าถึงประสบการณ์ในช่วงนั้นว่ามันช่างยากแค้นเหลือจะทน เพราะพวกเขาต้องอาศัยนอนหลังเวทีซึ่งอยู่ใกล้กับห้องน้ำ ใกล้มากจนได้กลิ่นห้องน้ำชัดเจน แถมในห้องยังไม่มีเครื่องทำความร้อน พวกเขาต้องนอนหนาวอยู่ในห้องซึ่งดัดแปลงมาจากห้องเก็บของนั้น

แต่ว่า คลับ Indra ต้องปิดตัวเพราะโดนร้องเรียนเรื่องเสียงดัง The Beatles จึงไปเล่นที่คลับ Kaiserkeller พร้อมกับวง Rory Storm and the Hurricanes ซึ่งมือกลองของ The Hurricanes ในตอนนั้นก็คือ Ringo Starr

เนื่องจากพวกเขาไม่ค่อยได้เงินมากนัก The Beatles จึงแอบไปเล่นที่คลับ Top Ten Club ซึ่งถือว่าแหกสัญญาที่ทำไว้กับ Bruno เมื่อ Bruno รู้เข้าก็โกรธมาก เขาจึงยกเลิกสัญญา และแจ้งความให้เจ้าหน้าที่รัฐรับทราบว่า George Harrison อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะทำงานในคลับได้ ทำให้ George โดนเนรเทศออกจากเยอรมนีในเดือนพฤศจิกายน

สมัยนั้น ถ้าอายุไม่ถึง 18 จะอยู่ในคลับได้ไม่เกิน 22.00 นาฬิกา George อายุเพียงแค่ 17 เท่านั้น

และอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา Paul กับ Pete ซึ่งโกรธในสิ่งที่ Bruno ทำก็เลยเอาจุดไฟเผาถุงยางอนามัยแล้วเอาไปแปะกำแพง จึงโดนแจ้งความข้อหาลักลอบวางเพลิง ทำให้ทั้งคู่โดนเนรเทศกลับอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม The Beatles ติดใจบรรยากาศในฮัมบวร์ก และกลับมาเล่นดนตรีที่นี่เป็นส่วนใหญ่ในช่วง 1961-1962 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาปรับปรุงและพัฒนาตัวเองหลายอย่าง รวมทั้งภาพลักษณ์ อย่างเช่น Astrid Kirchherr คู่หมั้นชาวเยอรมันของ Stuart ตัดผมเขาในสไตล์ exi สมาชิกคนอื่นก็ตัดผมแบบนี้ตามจนเป็นเอกลักษณ์ของ The Beatles ในยุคแรก

และในช่วงนี้เองที่ Stuart หมดความสนใจเรื่องดนตรี และออกจากวงไปเงียบ ๆ เพื่อศึกษาศิลปะต่อ The Beatles ก็ไม่ได้รับใครมาเป็นสมาชิกเพิ่ม Paul เปลี่ยนมาเล่นเบสแทน กลายเป็นวงดนตรี 4 ชิ้นที่เล่นที่ The Star Club ซึ่งที่นี่ ได้มีการบันทึกเสียงอาไว้และวางจำหน่ายในชื่อ Live! at the Star-Club in Hamburg, Germany; 1962

Leave a Reply

Scroll to top
%d bloggers like this: